[แปล] Shall we date?: Mononoke Kiss - Hajime : Main Story


เริ่มต้นเรื่องมาหลังจากฮาจิเมะช่วยนางเอกออกมาจากปราสาทแล้ว

พอถึงป่า... เมื่อฮาจิเมะเห็นว่าปลอดภัยดีแล้ว
เขาบอกนางเอกให้ดูแลตัวเองล่ะกันนะ แล้วก็ขอตัวแยกจากนางเอกไป

นางเอกตกใจ ช่วยออกมาแล้วมาทิ้งกันกลางป่าเนี่ยนะ!

นางเอกพยายามเดินตามเขาไป
แต่เขาก็เหมือนไม่ค่อยใส่ใจนางเอกเท่าไร พยายามจะขอตัวไปจากนางเอกตลอด

ฝนเริ่มตกลงมา นางเอกเดินแล้วหกล้มลง ฮาจิเมะเข้ามาช่วยเธอ
แต่พอช่วยเธอเสร็จ เขาก็ขอตัวจากไปอีกครั้ง

สุดท้ายด้วยความโกรธที่ถูกทิ้ง และความเสียใจที่เสียท่านพ่อไป
นางเอกเลยระเบิดอารมณ์ต่อว่าฮาจิเมะออกมา
ถ้าเขาจะช่วยเธอแล้วเอาเธอมาทิ้งกลางป่าแบบนี้
ก็สู้ปล่อยให้เธอจากไปกับท่านพ่อตั้งแต่ตอนนั้นเลยไม่ดีกว่าเหรอ...!

ฮาจิเมะบอกเขาขอโทษ เขาลืมคิดไปจะทิ้งเจ้าหญิงไว้ในที่แบบนี้ได้ยังไงกัน
เขาจะพาเธอไปที่ปลอดภัยเอง แต่ตอนนี้ไปหาถ้ำแถวนี้ หลบฝนก่อนดีกว่า

ในถ้ำ... นางเอกถามเขาถึงสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
ปีศาจพวกนั้นเป็นใครกัน? ทำไมถึงต้องตามล่าเธอด้วย?
แล้วพวกฮาจิเมะเป็นใคร? ทำไมถึงเข้ามาช่วยเธอ?
แต่ฮาจิเมะไม่ยอมตอบเธอ

พอฝนหยุด ฮาจิเมะพานางเอกเดินทางต่อ
เขาบอกว่า เขานัดกับพวกที่เหลือเอาไว้ในเมือง
เมื่อพบกับทุกคนแล้ว เขาก็จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังเอง

นางเอกตอบตกลง

ระหว่างเดินทาง...
ฮาจิเมะก็คอยดูแลนางเอกอยู่ตลอดเวลาที่เดินข้ามเขา
.
.
พอถึงตัวเมือง...

ฮาจิเมะพานางเอกไปซื้อกิโมโนตัวใหม่
เพราะกิโมโนที่เธอใส่อยู่มันสะดุดตาเกินไป

พอซื้อเสร็จฮาจิเมะก็บอกตอนนี้เงินค่าเดินทางหมดแล้ว
นางเอกจึงเอากิโมโนตัวเก่าของเธอขายไป เพื่อใช้เป็นค่าเดินทาง
นางเอกดีใจที่เธอได้ตอบแทนเขาบ้าง

ฮาจิเมะพานางเอกไปที่บาร์ เขาบอกจะทำเงินให้มันเพิ่มขึ้น
เขาท้าพนันดื่มเหล้ากับผู้ชายกลุ่มหนึ่งในบาร์

เวลาผ่านไป...

เหล้าหมดไปเป็นจำนวนมาก แต่ฮาจิเมะก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเมาเลยสักนิด
จนสุดท้ายผู้ชายทั้งกลุ่มนั้นก็ต่างเมากันหมด
ฮาจิเมะเป็นฝ่ายชนะ ได้เงินพนันมา

พอออกจากบาร์...
นางเอกชมเขาใหญ่ ว่าเขาเก่งจัง ดื่มไปตั้งเยอะ แต่ไม่เมาเลย

ฮาจิเมะแอบบอกนางเอกว่าเขาใช้เทคนิคเล็กน้อย
มีแค่ถ้วยสุดท้ายที่เป็นเหล้าจริง ก่อนหน้านั้นเป็นน้ำเปล่าหมดเลย

พอทั้งคู่เดินไปได้สักพัก ก็ถูกกลุ่มคนที่พนันแพ้ฮาจิเมะล้อม
พวกเขาจับได้ว่าฮาจิเมะโกง

ฮาจิเมะพานางเอกหนีจนไปสุดทาง
เขาปกป้องนางเอก บอกเธอว่าไม่เป็นไรหรอก
เขาก็ยกขาขึ้นแล้วกระทืบที่พื้นอย่างแรง แล้วพื้นดินอยู่ๆก็สั่นไหว...
และก็มีกำแพงดินขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาขวาง ระหว่างกลุ่มพวกนั้นกับทั้งสองคน

พอหนีออกมาได้...

นางเอกถามเขา เขาทำแบบนั้นได้ยังไงกัน? มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทำได้นะ

ฮาจิเมะตอบก็เขาไม่ใช่มนุษย์น่ะสิ

นางเอกถามกลับ เขาเป็นพวกปีศาจหรือภูตเหรอ?

ฮาจิเมะตอบรับ ใช่... เขาเป็นภูต...

นางเอกทรุดลงไปนั่งกับพื้น
เธอนึกในใจ เขาเป็นพวกเดียวกับพวกที่มาบุกปราสาทแล้วฆ่าพ่อของเธอเหรอ?

ฮาจิเมะตกใจเข้าไปถามนางเอกว่าเป็นอะไรมั้ย? เขาเอื้อมมือไปจะจับเธอ

นางเอกรีบสะบัดมือเขาอย่างแรง พร้อมตวาดใส่เขา อย่ามาจับตัวฉันนะ!

ฮาจิเมะนิ่งแล้วบอกขอโทษด้วย
แต่คราวนี้เขาคงไม่สนใจความรู้สึกของเธอหรอกนะ
แล้วเขาก็คว้าแขนนางเอกไปกับเขา
.
.
ที่โรงแรม... ฮาจิเมะพานางเอกเข้าพัก

เจ้าของโรงแรมเข้าว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน จึงให้เข้าพักห้องเดียวกัน

นางเอกโวยวายใส่เขา แล้วจะนอนกันยังไง?

ฮาจิเมะบอกฟูกนี้ก็ใหญ่พอสำหรับเราสองคนนี่น่า
แต่ถ้าเธอไม่พอใจอยากนอนกับพื้นก็ได้นะ?

นางเอกโมโห ก็ได้! เธอยอมนอนกับพื้น!

ฮาจิเมะหัวเราะออกมา แล้วบอกเขาแค่แหย่เธอเล่น
เขาจะให้เจ้าหญิงมานอนกับพื้นได้ยังไงกัน

นางเอกยิ่งโมโหหนัก นี่เขาแกล้งแหย่เธอเหรอ!?

ฮาจิเมะหัวเราะ ก็ช่วยไม่ได้นี่ เธออยากทำท่าทางที่น่ารักตอนโดนเขาแหย่ทำไมล่ะ
มันยิ่งทำให้เขาอยากแหย่เธอเข้าไปอีกนี่น่า

แล้วฮาจิเมะก็ดึงนางเอกมาที่ฟูก และเขาก็ขึ้นคร่อมเธอ พร้อมบอก
กิโมโนธรรมดาๆแบบนี้ไม่เหมาะกับเจ้าหญิงอย่างเธอเลย ให้เขาช่วยถอดออกดีกว่านะ
แล้วเขาก็ทำท่าเพราะจะถอดกิโมโนนางเอกออก

นางเอกพูดอะไรไม่ออก เธอร้องไห้ออกแล้วด้วยความกลัว

ฮาจิเมะตกใจ ที่นางเอกร้องไห้
เขาบอกเขาขอโทษ เขาแค่แหย่เธอเล่นเท่านั้น อย่าร้องไห้นะ

แล้วฮาจิเมะก็ลุกและบอกนางเอกว่า เขาจะไปขอฟูกมาเพิ่ม
แล้วเขาก็รู้สึกหิวแล้วด้วย เขาจะไปสั่งอาหาร เธอจะเอาอะไรมั้ย?

นางเอกตอบ ไม่ เธอยังไงก็ได้

แล้วฮาจิเมะก็ออกจากห้องไป

นางเอกยังตกใจไม่หาย เธอขยับตัวไม่ออก
เธอคิดในใจ เมือกี้มันน่ากลัวจัง...เธอนึกว่าหัวใจเธอจะหยุดเต้นเสียแล้ว
นี่ฮาจิเมะ เขาเป็นคนยังไงกันนะ? เมื่อตะกี้ยังสนุกกับการแหย่เธออยู่เลย
แต่พอเขาหันหลังเขาก็ทำตัวเย็นชา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
ไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆนะ

หลังจากทานอาหารกันเสร็จ ทั้งคู่ก็เข้านอน
.
.
ตกดึก... นางเอกนอนไม่หลับ

ฮาจิเมะเลยทักเธอแล้วก็แหย่
นอนไม่หลับเหรอ? อยากจะมานอนข้างๆเขามั้ย?

นางเอกเขินรีบปฏิเสธ เธออยากให้เขาบอกความจริงกับเธอมากกว่า

ฮาจิเมะ บ่นออกมา เธอนี่มันดื้อกว่าที่เขาคิดอีกนะ
และก็ถอนหายใจ แล้วบอก ก็ได้... เขายอมแพ้ล่ะ เขาจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้

นางเอกลุกขึ้นมาฟังด้วยความตื่นเต้น
พวกที่บุกปราสาทเธอเป็นใครกัน? แล้วทำไมพวกนั้นต้องฆ่าท่านพ่อของเธอด้วย?

ฮาจิเมะตอบ ที่พวกนั้นต้องการก็คือตัวเธอ พวกเขาต้องการพลังพิเศษของเธอ

นางเอกสงสัย พลังพิเศษเหรอ...?

ฮาจิเมะเล่าถึงแม่ของนางเอกว่า
แม่ของเธอ ท่านหญิงยูริ คือ ปีศาจที่มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าปีศาจบริสุทธิ์
แล้วเธอก็ได้รับสืบทอดสายเลือดนั้นมา
ส่วนเขาก็ได้รับคำสั่งจากริวซาบุโร่ให้ปกป้องมาเธอ... นั่นคือทั้งหมดที่เขารู้

นางเอกอึ้งกับเรื่องราวทั้งหมดที่ได้ฟัง

ฮาจิเมะถามนางเอกต่อ ที่จริงเขาได้รับคำสั่งให้ปกป้องของอีกสิ่งหนึ่งด้วย....
ดาบปีศาจ... เธอรู้จักหรือเคยได้ยินมาก่อนมั้ย?

นางเอกส่ายหน้า เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน
แล้วเธอก็นั่งเงียบ ทบทวนสิ่งที่เธอได้ยิน
ท่านแม่เป็นปีศาจ... เธอสืบทอดสายเลือดนั้นมา...

แล้วฮาจิเมะก็ขอโทษเธอด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย แล้วบอกนางเอกว่า
ที่เธอนอนไม่หลับก็เพราะมีเขาอยู่ข้างๆสินะ
ปีศาจกับภูตนั่น ฆ่าพ่อของเธอ... แล้วเขาก็เป็นภูติเหมือนกัน เธอคงจะกลัวสินะ...

นางเอกตอบปฏิเสธ เธอไม่ได้กลัวเขาเลย
ถึงเขาจะเป็นภูตแต่เขาก็ต่างจากพวกนั้นที่ฆ่าท่านพ่อของเธอ
เขาเป็นคนดีเพราะไม่ว่าจะเมื่อไรเขาก็เข้ามาช่วยเธอเสมอ

ฮาจิเมะดีใจ บอกขอบคุณเธอ

นางเอกสังเกตเห็นรอยแผลที่แก้มฮาจิเมะ
รอยแผลนั่น... เขาได้มาจากตอนที่ปกป้องเธอจากพวกคนขี้เมานั่น

ฮาจิเมะบอกไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมันก็หาย

นางเอกยืนยันจะทำแผลให้ แต่เธอไม่มีเครื่องมือทำแผลอะไรเลย
แล้วนางเอกก็นึกได้ว่า แม่นมเธอเคยบอกว่าการเลียช่วยรักษาแผลได้

นางเอกจึงบอกให้ฮาจิเมะอยู่เฉยๆ

เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขาแล้วก็....เลียแผลที่แก้ม

ฮาจิเมะตกใจกับการกระทำของเธอ เขาหน้าแดงพูดอะไรไม่ถูก

นางเอกบอกขอโทษที่ทำให้เขาตกใจ เธอเคยได้ยินมาว่าการเลียช่วยรักษาแผลได้

เธอคิดในใจ แต่บางทีมันก็อาจจะไม่ได้ผลนะ
เธอเสียใจที่ช่วยอะไรเขาไม่ได้ แต่พอเธอมองไปที่แผลที่แก้มเขา...

นางเอกตกใจ ฮาจิเมะ! ดูนั่นสิ แผลหายแล้วจริงๆด้วย! อย่างที่แม่นมเธอบอกเลย

ฮาจิเมะก็ตกใจเหมือนกัน เขาพูดออกมา จริงด้วย...
บางทีพลังที่เธอได้รับมาอาจจะเป็น พลังการรักษา (Heal) ก็ได้....
.
.
เช้าวันต่อมา...

เมื่อนางเอกลืมตาขึ้น... เธอพบว่าฮาจิเมะนอนอยู่ฟูกเดียวกันกับเธอ
เธอตกใจและเขิน จนทำอะไรไม่ถูก เขามาอยู่ฟูกเดียวกับเธอได้อย่างไร?

พอเขาตื่นขึ้น เขาก็แหย่นางเอกว่าเป็นคนมาหาเขาเอง จะจับเขาถอดเสื้อผ้าด้วย

นางเอกบอกเธอไม่ตกหลุมหรอกนะ แหย่เธออีกแล้วใช่มั้ย?

ฮาจิเมะ หัวเราะ แล้วชวนเธอไปหาอะไรกินกัน
.
.
ที่ร้านขนม...

เขาพาเธอไปทานของหวาน

นางเอกดีใจ เธอบอกไม่เคยมาที่ร้านแบบนี้มาก่อน

ฮาจิเมะสงสัย เธอไม่ชอบของหวานเหรอ?

นางเอกบอกเธอชอบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกมานอกปราสาท

ทั้งคู่ทานของหวานไปได้สักพัก

ฮาจิเมะก็ทักนางเอกว่ามีซอสถั่วแดงติดที่มุมปากเธอ

นางเอกพยายามจะเช็ดออก แต่มันก็ไม่ยอมออกไปซะที

ฮาจิเมะมองนางเอกแล้วหัวเราะ เขาบอกให้เธออยู่นิ่งๆนะ

เขาก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆเธอ แล้วเขาก็เลียที่มุมปากเธอ

นางเอกเขินทำอะไรไม่ถูก

ฮาจิเมะเลยแซวนางเอกใหญ่ที่เธอหน้าแดง
.
.
หลังทั้งคู่ทานของหวานเสร็จ ก็ออกมาจากร้านขนม

นางเอกก็เดินชนเข้ากับกลุ่มนักเลงเข้า เธอขอโทษ
แต่พวกเขาพยายามจะหาเรื่องเธอ  เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี
แล้วฮาจิเมะก็คว้าแขนเธอแล้วพาเธอหนีแบบไม่สนใจพวกนักเลง

กลุ่มนักเลงไม่ยอม เข้าขวางดักหน้า ไม่ให้เขาไปไหน

นางเอกพยายามเข้าห้าม แต่เธอก็ถูกพวกนักเลงผลัก ร่วงลงไปนั่งกับพื้น

พอฮาจิเมะเห็นแบบนั้น สีหน้าเขาก็เต็มไปด้วยความเดือดพล่าน
สายตาเขาจ้องพวกนักเลงอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

นางเอกตกใจ เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน เขาดูเปลี่ยนไปเหมือนคนละคน...!

แล้วอยู่ๆก็มีชายแปลกหน้าเข้ามาขวาง

เขามองพวกกลุ่มนักเลงที่กำลังล้อมฮาจิเมะอยู่ แล้วบอกว่า
ผู้หญิงคนนั้นคือว่าที่ภรรยาของเขา
เขาไม่ยอมให้ใครแตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้วหรอกนะ

นางเอกตกใจ ว่าไงนะ!?
เธอคิดในใจ นี่เขาพูดเรื่องอะไรกัน? ว่าที่ภรรยาอะไร...?
แต่เขาก็ดูหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน...
แต่เธอก็นึกไม่ออกว่าที่ไหนกันนะ...

พวกนักเลงไม่สนใจ ต่างพุ่งเข้าหมายจะทำร้ายเขา

ชายแปลกหน้าชักดาบออกมาด้วยความรวดเร็ว
เพียงพริบตาเดียวเขาจัดการเหล่ากลุ่มนักเลงลงไปกองกับพื้นทั้งหมด
ความสามารถในการใช้ดาบของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ เธอมองตามดาบเขาแทบไม่ทัน

ชายแปลกหน้าเดินเข้ามาหานางเอก พร้อมถามว่าเธอเป็นอะไรมั้ย?

นางเอกตอบ เธอไม่เป็นไร ขอบคุณมาก
เธอมองหน้าเขาแล้วถามกลับ เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?

ชายแปลกหน้า ทำท่าตกใจ
แล้วเอ่ยชื่อนางเอกออกมา เธอจำเขาไม่ได้เหรอ...
แต่เขารู้เรื่องของเธอหมดทุกอย่างเลยนะ...
แม้แต่เรื่องที่ตัวเธอเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำ

นางเอกตกใจ เขารู้ชื่อเธอได้ยังไงกัน!? เขาเป็นใครกัน...?

ชายแปลกหน้าตอบ เขาคือว่าที่สามีของเธอไงล่ะ
คนที่เธอจะมอบทั้งกายและใจให้ชั่วชีวิต

เขาจ้องมาที่เธอ และยื่นมือออกมา พร้อมบอกให้นางเอกมากับเขาสิ

นางเอกพูดอะไรไม่ออก
วินาทีที่เขามองมาที่เธอ เธอรู้สึกได้ถึงเลือดที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างเธอ
เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายของเธอไม่ยอมฟังคำสั่งเธอ
มันเคลื่อนไหวมุ่งหน้าเดินเข้าไปหาชายแปลกหน้าเอง

เธอพยายามต่อต้าน แต่เธอไม่สามารถพูด หรือแม้แต่ขยับนิ้วได้
ตอนนี้ร่างกายเธอเป็นเหมือนตุ๊กตาหุ่นเชิด
ทุกส่วนของร่างกายเธอถูกควบคุมด้วยเชือกที่มองไม่เห็น

ทันใดนั้น... ก็มีอ้อมแขนที่แข็งแกร่งเข้าโอบตัวนางเอกจากทางด้านหลัง
ฮาจิเมะร้องเรียกชื่อนางเอกพร้อมกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน

นางเอกสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากตัวเขาที่ส่งผ่านมาที่เธอ
นางเอกเริ่มควบคุมตัวเองได้อีกครั้ง
เหมือนกับว่าอ้อมกอดของเขาช่วยทำลายมนต์สะกดที่ควบคุมเธอไว้

นางเอกหันกลับมามองหน้าเขา

ฮาจิเมะจ้องตาแล้วบอกเธอว่า
อย่าไปนะ... ผู้ชายคนนั้น เขาไม่ใช่คนปกติทั่วไป ท่าทางเขาดูอันตราย...

ชายแปลกหน้าจ้องหน้าฮาจิเมะอย่างเอาเป็นเอาตาย
พร้อมบอกให้ฮาจิเมะออกไปห่างๆนางเอกซะ

ฮาจิเมะไม่สน เขาบอกให้นางเอกมาหลบอยู่ข้างหลังเขาซะ

นางเอกตอบรับแล้วรีบทำตาม เธอรีบไปหลบอยู่หลังฮาจิเมะทันที

ชายแปลกหน้าพูดขึ้น แกหาเรื่องเองนะ... เจ้าโง่...

แล้วจู่ๆพื้นดินก็สั่นไหว หมอกมืดดำคลุมร่างชายแปลกหน้า
แล้วภายในพริบตา เขาก็กลายร่างเป็นปีศาจ

นางเอกนึกออกขึ้นมาทันที นี่มัน ปีศาจที่ฆ่าท่านพ่อของเธอ!
เลือดเธอขึ้นหน้า เธอคว้ามีดสั้นจากนักเลงที่นอนกองอยู่ที่พื้น
แล้วพุ่งเข้าใส่ปีศาจหมายจะล้างแค้นให้พ่อเธอ

เดี๋ยวก่อน! ฮาจิเมะคว้ามือนางเอกหยุดเธอไว้

นางเอกหันมาถาม ทำไมล่ะ...!? ห้ามเธอไว้ทำไม!?

ฮาจิเมะตอบ เธอสู้ปีศาจตนนั้นไม่ไหวหรอก
เขาแข็งแกร่งว่าเธอหลายเท่า เธอมีแต่จะตกหลุมกับดักมันถ้าทำอะไรแบบไม่คิด

นางเอกโต้กลับ แต่มันเป็นศัตรูของท่านพ่อ!
แถมมันยังยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว จะให้เธอปล่อยไปได้อย่างไรกัน...!

ฮาจิเมะพยายามเรียกสตินางเอก เธอสู้เขาในตอนนี้ไม่ได้หรอก!
ถ้าเธอเข้าไปมีแต่จะตายเปล่าๆ! เขาสัญญาเมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะช่วยเธอแก้แค้นเอง
แต่ตอนนี้ต้องหนีออกจากที่นี่ก่อน!

นางเอกรับฟังแล้วคิดได้ เธอยอมทำตามที่เขาบอก

ฮาจิเมะจับมือนางเอกแล้วรีบหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

แต่ปีศาจนั่นก็เร็วกว่า เพียงพริบตาเดียวเขาก็เคลื่อนตัวมาขวางทั้งสองคนไว้

ฮาจิเมะชักดาบออกมาพร้อมสู้

ฮาจิเมะและปีศาจ ทั้งคู่พุ่งเข้าใส่ ต่อสู้กัน
ระหว่างต่อสู้ ฮาจิเมะก็พยายามบอกให้นางเอกหนีไป แต่เธอไม่ยอม

จนกระทั่งฮาจิเมะถูกจู่โจมเข้าที่ขา ทำให้เสียจังหวะ
แต่เขาก็ยังพยายามปกป้องนางเอก พร้อมบอกให้นางเอกหนีไปซะ!

นางเอกยอมทำตาม เธอหนีสุดชีวิตเท่าที่เธอจะทำได้
เธอหนีอย่างไม่คิดชีวิต จนมาถึงตรอกเล็กๆ เธอคิดว่าเธอน่าจะหนีพ้นแล้ว

แต่แล้วปีศาจตนนั้นก็ปรากฏกายขึ้นต่อหน้านางเอก
พร้อมถามว่าเธอหนีเขาทำไม? เธอเป็นภรรยาของเขานะ!

นางเอกสับสน เธอถาม ฮาจิเมะล่ะ? เขาอยู่ไหน?

ปีศาจหัวเราะแล้วตอบ เจ้าภูตนั่นน่ะเหรอ เขาส่งมันลงนรกไปแล้ว
พร้อมคว้ามือนางเอก บอกให้ไปกับเขาซะ

นางเอกโกรธสุดขีด เธอพยายามดิ้นรนหนี

แล้วก็มีดาบพุ่งเข้าใส่มือปีศาจที่จับเธออยู่ เธอรีบสะบัดหนี
แล้ววิ่งเข้าหาคนที่มาช่วยเธอ... ฮาจิเมะ

ฮาจิเมะโผล่เข้ามาปกป้องเธอเสมอ
แต่กิโมโนของเขาตอนนี้เปียกไปด้วยเลือด
เขาต้องได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้อย่างหนักมาแน่ๆ

ฮาจิเมะบอกให้นางเอกก้มลง และเขาก็คุกเข่าลงไปเอามือแนบกับพื้น
แล้วทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นไหวเป็นระลอกคลื่น

ปีศาจทรงตัวไม่อยู่ แต่ก็ยังพยายามจะสู้ เขาตวัดดาบเข้าใส่ฮาจิเมะ

ฮาจิเมะหลบการโจมตีไม่พ้นเพราะเขากำลังร่ายเวทอยู่

นางเอกตกใจ เธออยากจะเข้าไปช่วยเขา แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

แล้วทันใดนั้น ก็มีกลุ่มซามูไรโผล่มาแทรกการต่อสู้

ปีศาจจึงพูดขึ้น เขาไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว ตอนนี้เขาจะยอมถอยก่อน
แต่คราวหน้าเขาจะเอานางเอกไปกับเขาให้ได้แน่ เธอจะต้องเป็นภรรยาของเขา
นี่เป็นโชคชะตาของเธอ จำไว้ซะ

แล้วปีศาจก็หันไปมองฮาจิเมะ และบอกว่าเขาจะร่ายคำสาปไว้
ไม่ช้าก็เร็ว มันก็ต้องตายอย่างแน่นอน
พอพูดจบ ปีศาจก็หายตัวไปพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชา

นางเอกรีบวิ่งเข้าไปกอดร่างฮาจิเมะที่เต็มไปด้วยเลือด เธอร้องเรียกชื่อเขา

ฮาจิเมะบอกด้วยน้ำเสียงที่ใกล้จะหมดแรงให้นางเอกหนีไป...

นางเอกบอกปีศาจตนนั้นไปแล้ว ไม่ต้องหนีแล้ว

ฮาจิเมะยืนยัน เธอต้องหนี... เรายังไว้ใจ... อะไรไม่ได้...
รีบหนีไปซะ... รีบหาที่ซ่อนที่ปลอดภัย...

นางเอกไม่ยอม เธอยืนยันเธอไม่ยอมทิ้งเขาไปโดยเด็ดขาด

ฮาจิเมะมองหน้านางเอกแล้วบอก เธอนี่มันดื้อจริงๆ
เขายิ้มแล้วก็หมดสติไป เลือดไหลออกจากร่างเขาไม่หยุด
..
.

นางเอกรีบพาเขากลับโรงแรม ไปทำแผล
ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ เขาต้องเสียเลือดจนตายแน่ๆ

เธอคอยเฝ้าอยู่เคียงข้างตลอด คอยภาวนาให้เขาตื่นขึ้นมา... อย่าตายนะ...

ตกกลางดึก ฮาจิเมะได้สติขึ้นมา นางเอกดีใจรีบเข้าไปดูอาการเขา

ฮาจิเมะบอกเขารู้สึกว่าหัวของเขาหนักมากเลย...

นางเลยลองแตะหน้าผากเขาดู
ตัวเขาไข้ขึ้นสูงมาก...! เขาตื่นได้สติแล้ว แต่ไข้ยังไม่ยอมหายไป...

นางเอกนึกถึงคำที่ปีศาจพูดไว้ ว่าเขาสาปฮาจิเมะไว้ ฮาจิเมะต้องตายแน่นอน...
หรือว่าจะเป็นเพราะคำสาปนั่น

นางเอกคิดในใจ มันเป็นความผิดของเธอ...
ถ้าเขาไม่เข้ามาช่วยเธอ เขาก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้...
น้ำตาเธอไหลออกมาด้วยความเสียใจ

ฮาจิเมะเห็นแบบนั้นเข้า เขาก็ปลอบเธอ อย่าโทษตัวเองสิ ไม่ต้องเศร้านะ
เขาไม่เสียใจหรอกที่ได้มาพบกับเธอ เธอทำให้เขาสนุกทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วย
แล้วตอนนี้เราก็ได้อยู่ด้วยกันด้วย เพราะงั้นอย่าเสียใจไปเลย

นางเอกน้ำตาไหลไม่หยุด เธอนึกถึงภาพของท่านพ่อที่ถูกฆ่าต่อหน้าเธอ...
เธอไม่อยากจะเห็นคนสำคัญของเธอจากไปต่อหน้าเธออีก...

ฮาจิเมะดึงนางเอกเข้ามาใกล้แล้วลูบหลังเธอปลอบใจ พร้อมแซว เธอนี่มันขี้แยจริงๆ

ความใจดีของเขา ความอ่อนโยนของเขา ยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิม...
น้ำตาของเธอไหลลงจากแก้ม ตกไปลงที่ปากของฮาจิเมะพอดี

ฮือ...?! จู่ๆฮาจิเมะก็อุทานออกมา

น้ำตานางเอกยังไหลอยู่ แล้วก็ร่วงลงสู่ปากฮาจิเมะอีก
นางเอกรีบขอโทษ น้ำตาเธอ... แล้วเธอก็รีบเช็ดน้ำตา

ฮาจิเมะบอก เขารู้สึกแปลกๆ จู่ๆร่างกายเขาก็เบาขึ้นมา
แม้แต่อาการไข้ก็รู้สึกว่า มันบรรเทาลง...

นางเอกรีบแตะหน้าผากเขาเช็คอุณหภูมิ...
ไข้เขาลดลงจริงๆด้วย... คำสาปถูกทำลายแล้วหรือยังไงกัน?

นางเอกสงสัย ทำไมจู่ๆไข้เขาถึงลดลงเองได้ล่ะ...?

ฮาจิเมะบอก เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน... แต่มันน่าจะเป็นเพราะพลังจากน้ำตาของนางเอก
เขาคิดว่าเธอมีพลังในการรักษา

ว่าไงนะ...? นางเอกอุทานออกมา
เธอไม่อยากจะเชื่อคำพูดของฮาจิเมะในตอนแรก แต่...

นางเอกพูดขึ้น ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง เธอจะร้องให้มากกว่านี้

นางเอกพยายามจะร้องไห้อีก แต่เพราะเธอดีใจที่ฮาจิเมะดีขึ้นเธอจึงร้องไม่ออก
เธอขอโทษเขาที่เธอร้องไม่ออกจริงๆ

ฮาจิเมะหัวเราะ ไม่ต้องแล้ว เขาอยากเห็นเธอยิ้มมากกว่านะ

นางเอกคิดในใจ เธอมีพลังแบบนี้อยู่จริงๆเหรอ?
แต่ถ้ากลับมาคิดให้ดีแล้ว ตอนที่เธอล้ม เธอก็เลียแผลเอา ถึงหายไม่ใช่เหรอ...?
แม่นมบอกเธอว่า 'ถ้าเลียแผลแล้ว มันหายเร็วขึ้น' ...คงจะเป็นเรื่องจริง

งั้นถ้าเธอมีพลังแบบนี้จริง...
นางเอกหลับตารวบรวมความกล้า เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ฮาจิเมะ
แล้วก็รีบเอาริมฝีปากเธอสัมผัสกับเขา

ฮาจิเมะตกใจ...! ตาเขาเบิกโต เขาอึ้งไป ทำอะไรไม่ถูก
แล้วสักพักหนึ่งไข้ของเขาก็หายไปหมด

นางเอกดีใจ มันได้ผล...! เธอเดาถูกแล้ว...
แล้วบางทีแผลของเขาก็อาจจะหายเร็วขึ้นถ้าเธอจูบเขาอีก!

แล้วนางเอกก็เคลื่อนตัวเข้าไปจูบเขาอีก ซ้ำแล้ว... ซ้ำอีก...

ฮาจิเมะเขินหน้าแดงไปหมด เขาถามเธอทำอะไรกัน...?
นางเอกตอบ ก็จูบเธอไง

ฮาจิเมะเลิ่กลั่กบอกให้เธอหยุด...

นางเอกยืนยัน แต่มันช่วยให้ไข้เธอหาย ได้โปรดอดทนหน่อยนะ
ฮาจิเมะสับสน อดทนหน่อยงั้นเหรอ...?

นางเอกเข้าไปจูบเขาต่ออีก โดยไม่ให้โอกาสเขาตอบโต้
ฮาจิเมะได้แต่นั่งเขิน ทำอะไรไม่ถูก

สักพักนางเอกก็ถามอาการเขาเป็นอย่างไรบ้าง?
ฮาจิเมะตอบแบบเขินๆ ไข้หายหมดแล้ว และแผลก็เกือบหายสนิทแล้วด้วย

นางเอกบอก งั้นเธอจะจูบต่ออีกนิดล่ะกัน อดทนอีกหน่อยนะ
เธอจูบเขาหลายต่อหลายครั้ง จนร่างกายเขาจะรักษาเต็มที่

ฮาจิเมะบอกให้เธอพอได้แล้ว ถ้าเธอยังจูบเขาต่อ ริมฝีปากของเขาและเธอจะพองแล้วนะ
นางเอกตอบรับ ขอโทษด้วย...

ฮาจิเมะบอก เธอจะขอโทษไปทำไม? เป็นเพราะเธอ เขาก็เลยดีขึ้นนะ

นางเอกบอก แต่ก็เป็นเพราะเธอ เขาก็เลยต้องบาดเจ็บขนาดนี้
นั่นก็เลยทำให้เธออยากรักษาแผลเขาให้หายอย่างสมบูรณ์

ฮาจิเมะถามนางเอก เธออยากจะช่วยรักษาแผลเขาจริงเหรอ?
นางเอกตอบรับ ใช่...

ฮาจิเมะทำท่าครุ่นคิดสักพัก แล้วบอก เขารู้วิธีนะ...
นางเอกดีใจ อะไรเหรอ? ได้โปรด บอกเธอมา!

เขามองหน้านางเอกแล้วบอก เธอแน่ใจนะว่าจะไม่เสียใจภายหลัง?
นางเอกตอบอย่างมั่นใจ แน่นอน! เธอไม่เสียใจ! เธอจะทำทุกๆอย่างที่จะรักษาเขาได้

ฮาจิเมะทวนคำเธอ ทุกอย่างเลยเหรอ?
นางเอกยืนยัน ใช่!

ฮาจิเมะบอก โอเค งั้นหลับตาลงสิ...
นางเอกทำตามที่เขาบอก เธอหลับตาลง

แล้วฮาจิเมะก็คว้าแขนดึงเธอเข้ามาอย่างแรง... เขาผลักเธอลงกับเตียง

นางเอกตกใจลืมตาขึ้น ถามว่าเขาจะทำอะไร...?

ฮาจิเมะบอก เขาบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอให้หลับตาน่ะ?
เธอบอกเธอจะทำทุกๆอย่างที่จะรักษาเขาไง

นางเอกบอกแต่เรื่องนี้มัน...

ฮาจิเมะย้อนคำเธอ ไหนบอกว่าไม่ว่ายังไงก็จะไม่เสียใจภายหลังไง
แต่ถ้าเธอไม่ชอบ เขาจะหยุดก็ได้นะ

นางเอกพยักหน้า เธอตกลงยอมเขา ถ้ามันจะช่วยรักษาเขาได้ เธอก็ยินดี

ฮาจิเมะตั้งใจจะมีอะไรกับนางเอก
เขาจูบเธอ ถอดกิโมโนเธอ แต่พอเขาเห็นปฏิกิริยาของเธอแล้ว...

ฮาจิเมะถามนางเอกขึ้นมาว่า ครั้งแรกของเธอเหรอ?
นางเอกตอบเสียงสั่นว่า ใช่...

แล้วจู่ๆเขาก็เปลี่ยนท่าที แล้วบอก เขาไม่อยากทำล่ะ

นางเอกถามกลับ เพราะเป็นครั้งแรกของเธอเหรอ?
ฮาจิเมะตอบเต็มปาก ใช่...

นางเอกคิดในใจ งั้นเธอก็คงไม่ดีพอสำหรับเขาสินะ...
ใจหนึ่ง เธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่อีกใจ เธอก็รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน

นางเอกหันไปมองหน้าเขา ขอให้เขากอดเธอไว้หน่อยได้มั้ย?

ฮาจิเมะตกใจ เธอใจกล้ากว่าจะที่เขาคิดอีก? อยากจะต่อเหรอ?
นางเอกรีบปฏิเสธ ไม่ใช่! เธออยากจะรักษาแผลเขา ได้โปรด กอดเธอที!

ฮาจิเมะเงียบ เขาจ้องหน้าเธอ แล้วพูดขึ้นมา ก็ได้ ถ้าเธอยืนยันแบบนั้น

ฮาจิเมะโอบเข้ามากอดไว้ หน้าของเขาค่อยเข้ามาใกล้ๆเธอ
แล้วทั้งคู่ก็จูบกัน จูบที่แสนดื่มด่ำ นางเอกสมองล่องลอยไปกับรสจูบของเขา

แล้วจู่ๆฮาจิเมะก็หยุด แล้วบอก คืนนี้พอแค่นี้ล่ะ เขาจะนอนแล้ว
เขาปล่อยตัวนางเอก แล้วก็หันไปนอนเอาผ้าห่ม ห่มตัว โดยไม่สนใจนางเอก

นางเอกสับสน เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น?... ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้?...
แต่เธอยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสของริมฝีปากเขาได้อยู่เลย...
.
.
เช้าวันต่อมา...

ฮาจิเมะทักทาย พูดคุยกับนางเอกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นางเอกเลยคิด งั้นเธอก็ควรจะทำตัวปกติด้วยเช่นกัน

วันทั้งวัน นางเอกใช้เวลาไปกับการดูแลแผลเขา

ทั้งคู่แหย่กันไปก็แหย่กันมาอย่างสนุกสนาน
.
.
ตกช่วงเย็น... เธอเผลอผลอยหลับไปช่วงบ่าย
พอนางเอกลืมตามา ก็พบว่าฮาจิเมะไม่อยู่ในห้องกับเธอแล้ว

นางเอกกระวนกระวาย เธอควรทำยังไงดี? ควรจะออกไปตามหาเขามั้ย?
แต่ถ้าเขากลับมาไม่เจอเธอล่ะ? เธอคิดวุ่นวายใจไปมา

แล้วสักพัก ฮาจิเมะก็เดินกลับเข้ามา เขาบอกเขาไปเดินเล่นมา

นางเอกต่อว่าเขา ว่าแผลยังไม่หายดีเลย ออกไปได้ยังไง!

ฮาจิเมะบอก ตอนนี้แผลเขาหายหมดแล้ว ไม่เชื่อดูสิ?
เขาเปิดแผลให้เธอดู ซึ่งมันหายไปเรียบร้อยแล้ว

นางเอกตกใจ หายแล้วจริงๆด้วย! ดีจริงๆเลย!
ด้วยความดีใจ เธอก็เลยพุ่งเข้าไปกอดเขาเต็มที่
แต่เขากลับเสียสมดุลล้มลงไปกับเตียง กลายเป็นนางเอกอยู่บนตัวเขา

ฮาจิเมะเลยแซวเธอว่า
เมื่อคืนเขาเป็นคนผลักเธอ แต่วันนี้เป็นเธอผลักเขาเองเหรอ?
เมื่อคืนเป็นไงบ้างล่ะ?

นางเอกเขิน เธอโต้กลับ นี่เขากำลังแกล้งแหย่เธออยู่ใช่มั้ย?
ฮาจิเมะตอบ คงงั้น... แล้วเธอว่าไงล่ะ...?

นางเอกเขินหนัก อย่ามาถามเธอนะ...!

ฮาจิเมะบอก ถ้าเขาไม่ถาม เขาก็ไม่รู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเธอสิ
เขาเป็นผู้ชายนะ มันก็น่าดีใจอยู่หรอกที่ถูกสาวเชิญชวนน่ะ
แต่เขาก็เมินเฉยต่อความรู้สึกของเธอไม่ได้
เขาจะไม่ทำอะไรเธอจนกว่าเธอจะต้องการเองหรอกนะ
เขาเป็นสุภาพบุรุษพอนะ

ฮาจิเมะยิ้มแล้วลูบหัวนางเอกอย่างอ่อนโยน

ฮาจิเมะพูดต่อ แล้วถ้าอย่างงั้นก็... เธอควรจะลุกซะ ถ้าเธอไม่ต้องการ
ไม่อย่างนั้น เขาจะควบคุมตัวเองไม่อยู่นะ

นางเอกตกใจ ขอโทษ! เธอรีบลุกจากตัวเขาอย่างรวดเร็วทันที

ฮาจิเมะหัวเราะ แล้วบอก เธอนี่ตลกจริงๆ ดูแล้วสนุกไม่เบื่อเลย

นางเอกคิดในใจ เสียงหัวเราะของเขา ทำใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเลยนะ...
นี่มันคือความรักเหรอ...? แต่ฮาจิเมะไม่มีทางชอบเด็กแบบเธอหรอก...
แต่เธอก็ยังอยากจะอยู่กับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบเธอก็ตาม...
แต่... เธอก็ไม่อาจอยู่กับเขาได้ตลอดไป...

นางเอกพยายามสลัดความคิดนั้นออกจากหัว
ตอนนี้เธอคิดถึงเรื่องที่จะทำต่อไปสิ

นางเอกถามฮาจิเมะถึงเพื่อนที่เขาบอกจะนัดเจอกันที่เมืองนี้?

ฮาจิเมะบอก ที่เขาออกไปมาเมื่อกี้ก็เพื่อไปพบพวกนั้นล่ะ
แล้วพรุ่งนี้พวกเขาก็นัดเจอกันแล้วด้วย เธอจะไปด้วยใช่มั้ย?

นางเอกตอบเต็มเสียง แน่นอน!

เธอดีใจที่ได้อยู่กับเขานานขึ้นอีกนิดนึง...
แก้แค้นให้ท่านพ่อ... ปราสาทของเธอ... เธอมีเรื่องที่ต้องให้คิดอีกมากมาย...
แต่ตอนนี้ เธอรู้สึกมีความสุขที่ได้ใช้เวลากับฮาจิเมะเพิ่มขึ้นอีก...
.
.
เช้าวันต่อมา...

ฮาจิเมะพานางเอกไปพบกับพรรคพวกที่เหลือ
ริวซาบุโร่ ฮิโกะบาเนะ อิโนโจ และไรโซ

ริวซาบุโร่ถามฮาจิเมะถึงดาบปีศาจ
ฮาจิเมะตอบตามความจริงว่ายังไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลย

นางเอกถามขึ้นมาว่า ดาบปีศาจรูปร่างเป็นยังไงเหรอ?

ฮิโกะบาเนะอธิบาย มันเป็นดาบวิเศษที่ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น
สืบทอดกันของเผ่าปีศาจบริสุทธิ์
มันจะนำพลังอันยิ่งใหญ่มาให้แก่ปีศาจผู้ใช้มัน
แต่ก็เช่นกัน มันก็นำความพินาศมาสู่โลกมนุษย์ด้วย

นางเอกถึงกับขนลุกจากที่ฟังฮิโกะบาเนะพูด
ของอันตรายแบบนั้น ไม่ควรมีปีศาจหรือภูตตนใด ได้ครอบครอง

นางเอกถามต่อ แล้วทำไมดาบเล่มนั้นถึงมาอยู่ในปราสาทเธอได้ล่ะ?

ไรโซตอบ เพราะว่าแม่ของเธอ ท่านหญิงยูริ เป็นผู้ครอบครองดาบคนสุดท้าย

นางเอกตกใจ ฮาจิเมะบอกว่าท่านแม่มาจากเผ่าปีศาจบริสุทธิ์
แต่เธอไม่คิดว่าท่านแม่จะเก่งขนาดได้ครอบครองของอันตรายแบบนี้

ริวซาบุโร่บอก จากที่เห็นขอเดาว่า ฮาจิเมะคงจะเล่าเรื่องราวให้เจ้าหญิงฟังบ้างแล้ว

นางเอกพยักหน้าตอบ แล้วจู่ๆ...

เธอก็รู้สึกหน้ามืด

ฮาจิเมะรีบเข้ามารับตัวเธอ เขาช่วยพยุงตัวเธอให้ยืน พร้อมถามว่า เป็นอะไรมั้ย?

นางเอกตอบรับ ไม่เป็นไร เธอยังโอเคอยู่

ฮาจิเมะบอก เธอไม่จำเป็นต้องทำเป็นแข็งแกร่งก็ได้
อย่างน้อยก็อย่าปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงกับเขา
ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง เขาก็รับได้เสมอ เขาสัญญา...
แล้วก็ไม่ต้องกังวลไป ยังไงเขาก็จะปกป้องเธอนะ

นางเอกซาบซึ้ง บอกขอบคุณเขา
เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนเขา

ฮิโกะบาเนะบอก พวกเราทั้งหมดจะปกป้องท่าน เจ้าหญิง

นางเอกบอกขอบคุณฮิโกะบาเนะอีกคน เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
แค่คิดว่า เธอยังมีเพื่อนที่แข็งแกร่งคอยช่วยเหลือเธออยู่
มันทำให้ความกังวลของเธอหายไปหมด

นางเอกถามขึ้น แล้วทำไมท่านพ่อหรือท่านแม่ของเธอ
ไม่เห็นได้บอกเธอถึงเรื่องสายเลือดปีศาจในตัวเธอเลย?

ริวซาบุโร่อธิบาย
นั่นเพราะท่านหญิงยูริต้องการให้ท่านเติบโตมาเหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป
ไม่ใช่เป็นคนในเผ่าปีศาจบริสุทธิ์นั่น

นางเอกยังคงสงสัย เพราะอะไรเหรอ?

ริวซาบุโร่ตอบ ท่านหญิงยูริตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับเผ่าปีศาจบริสุทธิ์
ตั้งแต่ตอนที่ท่านแต่งงานกับท่านพ่อของเจ้าหญิง

นางเอกสรุปความ ท่านแม่เลือกที่จะอยู่กับท่านพ่อสินะ...

อิโนโจถามขึ้น ว่าแต่ดาบปีศาจอยู่ที่ไหนกันล่ะ?

โรโซบอก ถ้ามันไม่ได้อยู่กับนางเอกแล้ว มันก็น่าจะ...

ฮาจิเมะตอบ มันต้องอยู่ในปราสาท

ริวซาบุโร่บอก มีสิทธิ์เป็นไปได้ ถ้ามันตกอยู่ในมือของพวกเผ่าปีศาจบริสุทธิ์
โลกต้องเกิดหายนะแน่ เราต้องนำมันกลับคืนมา

นางเอกพูดขึ้น งั้นเธอขอไปด้วย!

ฮาจิเมะรีบปฏิเสธ ไม่ยอมให้นางเอกไป
เขาบอกเขาไม่อยากให้เธอต้องไปเสี่ยงอันตราย

นางยืนยัน แต่เธอคือผู้สืบทอดของเผ่าปีศาจบริสุทธิ์
มันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องปกป้องดาบปีศาจนี้

ไม่! ยังไงเขาก็ไม่ยอม! ฮาจิเมะปฏิเสธเสียงแข็ง

นางเอกไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน

ฮาจิเมะพูดต่อ นั่นยิ่งทำให้เธออันตรายเข้าไปอีก เขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นหรอกนะ

นางเอกบอก แต่มันจะยิ่งอันตรายยิ่งกว่า ถ้าศัตรูได้ดาบปีศาจไปนะ!

อีโนโจพูดขึ้น เธอพูดถูกนะ ฮาจิเมะ

พวกที่เหลือพยายามพูด พวกเราต้องขัดขวางไม่ให้มันตกไปในมือของศัตรูนะ
พวกเราทุกคนจะช่วยปกป้องเจ้าหญิงเอง เชื่อใจเพื่อนนายหน่อยสิ ฮาจิเมะ

ฮาจิเมะ เงียบ...
เขามองหน้าเพื่อนเขาทีละคนๆ และก็มองหน้านางเอก
แล้วก็บอก เขาเข้าใจแล้ว...

นางเอกดีใจ บอกขอบคุณเขา

ทั้งหมดเลยเตรียมวางแผนที่จะลอบเข้าปราสาทไปชิงดาบปีศาจ

ฮาจิเมะไม่ยอมห่างจากนางเอก
เขาโอบไหล่นางเอกเข้ามาแล้วกระซิบบอก
เขาอยากให้เธอสัญญากับเขาอย่างหนึ่ง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ห้ามห่างกายเขาไปไหนนะ

นางเอกรีบตอบรับ เข้าใจแล้ว...

แล้วฮาจิเมะก็แซวที่นางเอกหน้าแดงเขิน ทั้งคู่หยอกล้อกันไปมา

ทุกคนที่เหลือเห็นภาพทั้งคู่แบบนั้นแล้ว
ก็แซวฮาจิเมะว่าไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน
พวกเขาก็รู้จักฮาจิเมะมาตั้งนานแล้ว
แต่ฮาจิเมะไม่เคยแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาเลย

ฮาจิเมะได้ยินแบบนั้นแล้วก็เขิน นางเอกเลยหันไปมองหน้าเขา
แต่เขาก็หลบหน้าเธอเหมือนไม่อยากให้เธอเห็นเขาในตอนนี้
.
.
เช้าวันต่อมา...

ทั้งหมดออกเดินทางไปปราสาทด้วยกัน
ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกันคือนำดาบปีศาจกลับคืนมา

ด้วยความเหนื่อยที่ต้องเดินทางในป่า
นางเอกจึงขาล้าจะหกล้ม แล้วก็มีคนเข้ามาโอบเธอไว้ก่อนจะล้ม
พอเธอหันไปดูก็พบว่าเป็น... อีโนโจ

อีโนโจ แซวเธอว่าเธออยากให้เป็นฮาจิเมะมากกว่าเขาใช่มั้ยล่ะ?
ที่จริงเธอน่าจะเลือกเขามากกว่าฮาจิเมะนะ...

พอได้แล้ว อีโนโจ... ฮาจิเมะพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธ
เขาเข้ามาดึงตัวนางเอก ปัดแขนอีโนโจออก
เขาพานางเอกเดินออกมาจากอีโนโจโดยไม่สนใจ

ฮาจิเมะหันมาบอกกับนางเอก เธอนี่มันงี่เง่า

นางเอกกล่าวขอโทษ...
แต่ในใจเธอ...แล้วทำไมเธอต้องขอโทษด้วยเนี่ย?

ฮาจิเมะพูดต่อ สัญญาแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธอจะไม่ห่างกายเขาน่ะ?
เธอจะต้องถูกทำโทษที่ผิดสัญญา เขาจะไม่ยอมปล่อยมือเธอไปอีกแล้ว

นางเอกรู้สึกดีใจ ที่เขาเป็นห่วงเธอด้วย

แล้วหลังจากนั้นฮาจิเมะก็จับมือเธอไว้ตลอดเวลาที่เดินข้ามภูเขา
.
.
มาถึงริมแม่น้ำ...

ริวซาบุโร่ ตัดสินใจบอกให้ทุกคนพักผ่อนกันที่นี่

พวกผู้ชายแยกย้ายกันไปหาฟืนมาก่อไฟ

นางเอกอยู่คนเดียว เลยตัดสินใจแอบย่องไปอาบน้ำคนเดียวเงียบๆ

ระหว่างที่เธอกำลังอาบน้ำอยู่นั้น
เธอรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างก็ไม่รู้มาสัมผัสขาของเธอ
พอเธอมองไปก็เจอบางอย่างที่รูปร่างคล้ายกับงู

นางเอกตกใจร้องเสียงดังออกมา

ฮาจิเมะรีบวิ่งมาดู เขาถามนางเอกอย่างตกใจ เกิดอะไรขึ้น!?

นางเอกบอกเขาว่ามีงูในน้ำนั่น

ฮาจิเมะลงไปดู เขาคว้างูขึ้นมา
นางเอกตกใจรีบบอกเขา ระวังมันอันตรายนะ ถ้ามันมีพิษขึ้นมา

ฮาจิเมะหัวเราะแล้วบอก ไม่หรอก ตัวนี้มันไม่มีพิษน่ะ แล้วเขาก็ขว้างงูทิ้งไป

แต่พอฮาจิเมะมองไปที่นางเอก
เขาก็เขินหน้าแดง แล้วบอก ที่อันตรายน่าจะเป็นเธอมากกว่านะ...

นางเอกนึกได้ว่าเธอกำลังโป๊อยู่ เธอพยายามจะรีบหนี

แต่ฮาจิเมะคว้าแขนเธอไว้แล้วเอากิโมโนของเขาห่มเธอ
เขาบอกว่าแบบนี้ก็ไม่มีใครเห็นเธอแล้ว

ทั้งคู่มองหน้ากัน แล้วค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้ามาหากัน แต่แล้ว...

ฮาจิเมะ! เสียงอีโนโจดังขัดขึ้น เขาตามหาฮาจิเมะอยู่

ฮาจิเมะรีบปล่อยนางเอก แล้วกลับไปสมทบกับพวกที่เหลือ
.
.
ตกกลางคืน... ในถ้ำ...

ทุกคนนอนหลับพักผ่อนเอาแรง
สำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะบุกปราสาท ชิงเอาดาบปีศาจคืนมา

นางเอกนอนไม่หลับ เธอเอาแต่คิดเรื่องวันพรุ่งนี้

แล้วก็มีเสียงขยับตัวดังขึ้น นางเอกหันไปมองเห็นฮาจิเมะเดินออกไปข้างนอก
เธอจึงเดินตามเขาออกไป

นางเอกเห็นฮาจิเมะนั่งดูทะเลสาบอยู่เงียบๆคนเดียว

เธอจึงเดินเข้าไปทักเขา ออกมาข้างนอกแบบนี้ระวังเป็นหวัดนะ
ฮาจิเมะบอก เธอเป็นห่วงมากเกินไปแล้ว

นางเอกบอก แต่เธอเพิ่งหายบาดเจ็บ ร่างกายกำลังฟื้นฟูอยู่ ไม่ใช่เหรอ?
ถ้าป่วยขึ้นมาจะทำยังไง...

ฮาจิเมะยิ้มแล้วบอก ถ้าทำแบบนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ...
เขาก็คว้ามือนางเอกมากุมไว้ แล้วบอก เห็นมั้ย? อุ่นดีออก

นางเอกพยักหน้าตอบรับ แล้วถามต่อ แล้วเขาออกมาทำอะไรที่นี่ล่ะ
ฮาจิเมะตอบ ก็คิดอะไรนิดๆหน่อยๆ

แล้วทั้งคู่พูดคุยกันเรื่องต่างๆ นางเอกมองเขาที่พูดคุยกับเธอ
แล้วแอบคิดในใจ เส้นผมของเขาที่สะท้อนอยู่ใต้แสงจันทร์นี้ มันช่างสวยงามจริงๆ...

เธอจ้องมองเขา จนเขาทักเธอขึ้นมา พอได้แล้ว เขารู้สึกเขินนะที่เธอจ้องเขาแบบนี้...
นางเอกรู้สึกตัว รีบบอกขอโทษเขา...

ฮาจิเมะบอก ไม่ต้องขอโทษหรอก ถึงจะเขินแต่เขาก็ชอบนะ
เขาโอบเอวนางเอกเข้ามาชิดกับตัวเขา
แล้วกระซิบถามที่ข้างหูเธอ อยากจะต่อจากคืนนั้นมั้ย...?

นางเอกตกใจ เธอรีบหันมามองหน้าเขา
และ...ริมฝีปากเธอก็ประกบด้วยจูบอันรุนแรงเข้า

ค่ำคืนที่แสนเงียบงัน ทั้งสองกอดกันอยู่ใต้แสงจันทร์...

จูบของฮาจิเมะช่างร้อนแรงยิ่งนัก อย่างกับว่าเขาต้องการจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งหมด...
เธอคิดอะไรไม่ออกแล้วในตอนนี้... สมองของเธอว่างเปล่าไปหมด...

ฮาจิเมะกระซิบบอก เขาต้องการเธอ...

เขาถอดกิโมโนตัวเองมาปูรองกับพื้นหญ้า และอุ้มนางเอกวางบนนั้น
เขาเข้าจูบเธออีกครั้งและเริ่มถอดกิโมโนเธอออก แล้วทั้งคู่ก็มีอะไรกัน
.
.
เช้าวันต่อมา...

นางเอกตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ตักของฮาจิเมะ
เขาทักทายเธอ ตื่นแล้วเหรอ?

นางเอกตอบรับแล้วรีบลุกขึ้น เธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ เธอและเขา...
ร่างกายของเราทั้งสองเชื่อมโยงเข้าหากัน...

แล้วฮาจิเมะก็แซวนางเอกเรื่องเมื่อคืนนี้ จนเธอเขินหน้าแดง

นางเอกมองตาเขา แล้วอยู่ๆใจเธอก็เหมือนจะระเบิดความรู้สึกภายในออกมา
ดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองเธอ คือดวงตาที่มองเธอด้วยความเสน่หาเมื่อคืนนี้
อาจจะเป็นใจของเรา กายของเราได้เชื่อมต่อกันแล้ว...
เธอไม่เคยรู้สึกวิเศษขนาดนี้ในชีวิตมาก่อน

เธอมั่นใจ...เธอรักเขา และเธอก็ไม่เสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
แล้วตอนนี้มันก็คงถึงเวลาที่เธอจะต้องบอกความในใจของเธอให้เขาฟัง

นางเอกตัดสินใจจะสารภาพรักกับฮาจิเมะ
เธออ้าปากจะพูด แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูด ฮาจิเมะก็ลุกขึ้น

เขามองหน้าเธอแล้วบอกว่า เราควรลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนซะ

อะไรนะ...? นางเอกตกใจ เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน
เขาว่าไงนะ? ทำไม? ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ล่ะ?
ได้โปรด บอกที่ว่านี่เขากำลังล้อเธอเล่นอยู่...

ดวงตาที่เคยจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยนคู่นั้น
ตอนนี้กลับกลายเป็นความเย็นชา เหมือนกับครั้งแรกที่เธอและเขาพบกัน...

ฮาจิเมะเบือนหน้าหนีแล้วบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เขาเป็นผู้ชาย เรื่องที่เกิดมันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบของเขา
มันไม่มีทางที่เขาจะไปตกหลุมรักมนุษย์ได้หรอก

นางเอกถามกลับ งั้นทำไม...?

ฮาจิเมะพูดต่อ เธอเป็นคนพิเศษ เธอควรจะได้อยู่กับมนุษย์ผู้ชายธรรมดาทั่วไป
คนที่สามารถทำให้เธอมีความสุขได้

นางเอกถามย้ำ แต่... แต่เมื่อคืน...

นางเอกคิดในใจ เธอมั่นใจเมื่อคืนนี้ สายตาเขาที่มองเธอนั้น
บอกถึงความรู้สึกของในใจของเขาที่ตรงกับใจของเธออย่างแน่นอน...

ฮาจิเมะบอก ก็นะ...เธอยังบริสุทธิ์อยู่ มันก็คงจะเจ็บน่าดู
แต่ในทางกลับกัน สำหรับเขามันก็สร้างความตื่นเต้นให้เขาน่าดู...
แล้วอีกอย่าง มันก็ดีไม่ใช่เหรอ ที่ได้เป็นคนแรกของสาวๆนะ เธอก็น่าจะรู้นี่?

ฮาจิเมะ... นายมันเลวที่สุด...! นางเอกโมโหขึ้นมาทันที

ฮาจิเมะตอบรับ ใช่ เธอพูดถูก...
เขามันเป็นคนเลว คนอย่างเขาไม่สมควรจะมีใครมารัก
แต่ปากของเขาบิดเบี้ยว เหมือนกำลังฝืนทนกล้ำกลืนอะไรอยู่
แล้วเขาก็หันหลัง จะเดินไป

นางเอกร้องเรียกเขา เดี๋ยวก่อนสิ!

ฮาจิเมะหันกลับมา และบอก เขาขอโทษ...
แล้วเขาก็เดินจากไป ทิ้งนางเอกอยู่ตรงนั้นตามลำพัง

เมื่อเขาลับตาเธอ เข้าไปในป่า... ดวงตาก็เต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา
ทำไมกัน...ทั้งที่เธอคิดว่าเขาและเธอจะเข้าใจกันแล้ว
แต่ตอนนี้เขากลับ.... เธอไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ

เมื่อทุกคนตื่นขึ้น ก็พร้อมออกเดินทาง
ไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างนางเอกและฮาจิเมะ
เธอไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องบอกใคร
.
.
ทุกคนเดินทางไปๆเรื่อย จนถึงปราสาท...

ทุกคนวางแผนกันว่าจะแยกกันเข้าปราสาท คนละทาง ทางละสองคน
นางเอกจับคู่กับฮาจิเมะเหมือนเดิม

ทั้งคู่ใช้เส้นทางลับเข้าไปในตัวปราสาท
ระหว่างทางเธอรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับเขาสองคน
มันทำให้เธอนึกไปถึงเรื่องที่เขาปฏิเสธเธอตอนนั้น
เธอน้ำตาไหล เศร้าใจที่คิดถึงเรื่องนั้น เธอหันไปเช็ดน้ำตา
แต่พอหันมาอีกที... ฮาจิเมะก็หายไปแล้ว
.
.
ในตัวปราสาท...

นางเอกเดินอยู่ตามลำพัง เธอพยายามตามหาฮาจิเมะ
จนเธอมาเจอเข้ากับ...

ยูคิ สาวรับใช้ของจิโนะสุเกะ เธอมาในร่างภูตเต็มตัว

ยูคิ เข้าจู่โจมนางเอกทันทีที่เห็น
เธอจิกผมนางเอกแล้วเหวี่ยงนางเอกลงไปนอนกับพื้น
นางเอกพยายามจะลุกขึ้น แต่ยังไม่ทันจะได้ลุก มือของยูคิก็มาบีบคอเธอแล้ว

นางเอกถามเหตุผล ทำไมยูคิถึงต้องการจะฆ่าเธอด้วย?

ยูคิตอบ ทำไมน่ะเหรอ?
ก็เพราะเธอขโมยหัวใจของท่านลอร์ดจิโนะสุเกะไปน่ะสิ..!
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ หัวใจของท่านลอร์ดจิโนะสุเกะจะต้องเป็นของฉันอย่างแน่นอน...!

มือยูคิที่อยู่รอบคอนางเอก บีบกันเข้ามาแรงขึ้นกว่าเดิม
นางเอกเริ่มจะหายใจไม่ออก

ยูคิพูดต่อ มันเป็นความผิดของเธอ! เธอขโมยหัวใจเขาไปจากฉัน!
ท่านลอร์ดจิโนะสุเกะเป็นของฉัน! ของฉันคนเดียว!
ฉันยอมมอบทุกอย่างให้แก่เขา ทั้งกายและใจ!
เพราะฉะนั้นเขาต้องเป็นของฉัน!

นางเอกหายใจไม่ออก เธอเริ่มจะหมดสติ
สิ่งสุดท้ายที่เธอคิดออกตอนนี้ ฮาจิเมะ... ช่วยด้วย... เธอร้องเรียกฮาจิเมะอยู่ในใจ

ทันทีที่สายตาเธอเริ่มจะมืดลง ก็ได้มีลมปะทะเข้าอย่างแรงที่ยูคิ
จนยูคิต้องปล่อยมือเธอจากนางเอก

นางเอกลงไปนอนอยู่กับพื้น เธอกำลังสำลักจากอาการขาดอากาศหายใจ...

ยูคิมองหาคนที่มาขัดขวางเธอ ใคร!? ใครกัน! กล้าเข้ามาขวางทาง...?!

แล้วฮาจิเมะก็โผล่มา เขารีบเข้ามากอดนางเอก
พร้อมถามว่าเธอเป็นอะไรมั้ย? เขาขอโทษ เขาไม่ควรจะละสายตาไปจากเธอเลย...

นางเอกบอก มันไม่ใช่ความผิดของเขาเลย
ฮาจิเมะตอบกลับ ใช่สิ มันเป็นความผิดของเขา สิ่งที่เขาทำมีแต่ทำร้ายเธอ...

นางเอกมองหน้าเขา แล้วบอก อย่าพูดแบบนั้นสิ
ยังไงเขาก็คือคนที่คอยเข้ามาช่วยเธอเสมอเลยนะ

ฮาจิเมะมองหน้านางเอกกลับ เขากำลังเอ่ยจะพูดอะไรสักอย่าง จริงๆแล้ว เขา....
แต่แล้วเขาก็ถูกยูคิขัดขึ้น ยูคิโจมตีใส่เขาอย่างเต็มแรง

ฮาจิเมะพานางเอกหลบทัน เขาบอกให้นางเอกหนีไปซะ!

ทันใดนั้น... ฮาจิเมะก็เปลี่ยนร่างไปอยู่ในร่างภูตเต็มตัว แล้วก็เข้าต่อสู้กับยูคิ

ทั้งสองต่อสู้กัน จนยูคิหมดท่าแพ้ลง เธอถูกปัดไปกระแทกเข้ากับกำแพง

ยูคิรู้ตัวว่าสู้ฮาจิเมะไม่ได้ เธอเริ่มเปลี่ยนเป้าหมาย
เธอหันมามองนางเอกแล้วพุ่งตรงมา หมายจะฆ่านางเอก

แต่ฮาจิเมะเข้าขวางเธอทัน เธอถูกโจมตีอีกรอบอย่างรุนแรง จนลงไปหมดสติกับพื้น

ฮาจิเมะกลับร่างเดิม แล้วรีบเข้ามาหานางเอกถามว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนมั้ย?
นางเอกตอบ ไม่...เธอไม่เป็นไร

แต่จู่ๆเขาก็รีบปล่อยมือเธอ แล้วบอกให้เธอไปหาริวซาบุโร่ และไปกับเขาซะ
นางเอกบอก แต่เขาเป็นคนบอกให้เธออย่าห่างกายเขาเองนะ

ฮาจิเมะไม่สน บอกให้นางเอกไปซะ! แล้วเขาก็หันหลัง จะเดินจากเธอไป
นางเอกไม่ยอม เธอขอร้องเขา ให้เธอได้อยู่กับเขาเถอนะ

นางเอกคิดในใจ เธอไม่สนใจว่าเขาจะเป็นคนแบบไหน
แม้ว่าเธอและเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน...
แม้ว่าเขาจะไม่ยอมรับความรู้สึกของเธอก็ตาม...
เธอก็อยากจะอยู่เคียงข้างเขา

ฮาจิเมะบอก ถ้าเธออยู่กับเขา เขาอาจจะทำร้ายเธออีกก็ได้นะ...

นางเอกส่ายหน้า เธอไม่สนใจ ถ้าเขาอยากจะทำร้ายเธอ ก็เชิญ
แต่ยังไงเธอก็จะไม่ไปจากเขา ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจเธอได้หรอก
มันเป็นสิ่งที่เธอติดสินใจแล้ว ไม่ว่าเขาหรือใครก็เปลี่ยนใจเธอไม่ได้

ฮาจิเมะตกใจกับท่าทีของนางเอก
เขาทำท่าครุ่นคิดอยู่นาน แล้วพูดออกมา เธอพูดออกขนาดนี้แล้วเขาจะ...

จู่ๆเขาก็เงียบ ไม่ยอมพูดต่อ
แล้วเขาก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ดูเหมือนเจ็บปวดอยู่ลึกๆ
เขาบอกนางเอกว่า เขาดีใจที่นางเอกไม่เป็นอะไร แล้วเขาก็เตรียมจะเดินจากไป

นางเอกสับสน ฮาจิเมะ... ทำไมกัน...?
ตอนแรกเขาผลักไสเธอ แต่แล้วเขาก็เสี่ยงชีวิตเข้ามาช่วยเธออีก...
แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? เธอไม่เข้าใจเขาเลยสักนิด
เขาอยู่ต่อหน้าเธอ แต่มันก็เหมือนว่าเขาอยู่ห่างไกลเธอซะเหลือเกิน...

มองเขาเดินจากเธอไป เหมือนกับว่าเขาปฏิเสธทุกสิ่งของเธอแบบนี้
มันทำให้ใจของเธอเจ็บปวดเหลือเกิน...

แล้วนาทีที่ฮาจิเมะจะเดินจากไป ทุกคนที่เหลือก็โผล่เข้ามาพอดี

พวกเขาถามนางเอกว่าเป็นอะไรมั้ย? แล้วก็ถามหาศัตรูล่ะ?

ไม่มีใครเห็นยูคิอยู่แถวนั้นแล้ว...
ฮาจิเมะมองไปรอบๆแล้วบ่นออกมาด้วยความโกรธ
บ้าจริง... เธอหนีไปแล้ว... ตั้งแต่ตอนไหนกันนะ...?

ทุกคนมองหน้าฮาจิเมะแล้วถาม เขาเป็นอะไรไป?
ธรรมดาเขาไม่เคยปล่อยให้ศัตรูหนีไปแบบนี้ได้เลยนี่ ตั้งสติหน่อยสิ

ฮาจิเมะพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ขอโทษทุกคน

ริวซาบุโร่พูดขึ้น พวกเราจะไปที่หอคอยของปราสาท ฮาจิเมะดูแลเจ้าหญิงด้วยล่ะ

ทุกคนเตรียมจะเดินทางไป
แต่ฮาจิเมะเรียกพวกเขาไว้ เขาขอเปลี่ยนตัวคนดูแลนางเอก
เขาบอกตัวเขาไม่คุณสมบัติพอ เขาละสายตาจากเธอไป
ทำให้เธอต้องตกอยู่ในอันตราย...

ไรโซเสนอตัวเข้ารับหน้าที่นี้เอง

แต่นางเอกไม่ยอม เธอยืนยันจะอยู่กับฮาจิเมะ
ทั้งคู่เถียงกันอยู่สักพักหนึ่ง จนสุดท้าย...ฮาจิเมะก็ยอมเธอ

เขาถอนหายใจ แล้วบอก ก็ได้... เธอชนะ...

นางเอกดีใจขึ้นมาทันที...!

ริวซาบุโร่ถามย้ำ ฮาจิเมะ...พวกเราสามารถไว้ใจให้นายปกป้องเจ้าหญิงต่อได้ใช่มั้ย?

ฮาจิเมะตอบ เขาขอโทษในสิ่งที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้
แต่ตอนนี้ทุกคนไว้ใจเขาได้แล้ว เขาจะปกป้องเจ้าหญิงด้วยทุกสิ่งที่เขามี
แม้แต่จะแลกด้วยชีวิตของเขา เขาก็จะปกป้องเธอไว้ให้ได้

ไรโซที่ฟังอยู่ ไม่พอใจ เฮ้! สุดท้ายก็เป็นฮาจิเมะอีกล่ะ!
ไหนนายยอมแพ้ที่จะปกป้องเธอแล้วไม่ใช่หรือไง?

ฮาจิเมะตอบ เขาขอโทษด้วยที่ทำให้ยุ่งยากกัน
เมื่อกี้เขาสับสนไปหน่อย แต่ตอนนี้ไม่แล้ว

ทุกคนยอมเข้าใจ แล้วแยกย้ายกันไป

เหลือแค่ฮาจิเมะกับนางเอก อยู่กันตามลำพัง

ฮาจิเมะหันมาหานางเอกแล้วกุมมือเธอไว้ เขามองตาเธอแล้วบอก
คราวนี้เขาขอสาบาน... เขาจะปกป้องเธอด้วยชีวิตของเขา
เพราะฉะนั้นได้โปรดอย่าห่างจากกายเขานะ

นางเอกยิ้มแล้วพยักหน้าตอบรับ เธอเข้าใจแล้ว
.
.
ทั้งคู่สำรวจปราสาทต่อไปเรื่อยๆ
แต่แล้วก็มีเสียงครืน ดังขึ้นเบาๆมาจากโถงทางเดิน

ฮาจิเมะรีบบอกให้นางเอกมาหลบอยู่ด้านหลังเขา
พร้อมบอกเธอว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ห้ามห่างจากกายเขาไปไหนนะ

นางเอกพยักหน้าตอบรับ เธอเกาะแขนเขาแน่นไม่ยอมให้หลุดมือไปเด็ดขาด

เสียงค่อยๆดังขึ้น... ดังขึ้น... ดังขึ้นเรื่อยๆ
เสียงกระแทกดังสนั่น ไปทั่วทั้งปราสาท รวมถึงพื้นใต้เท้าทั้งคู่ด้วย

แล้วทันใดนั้น... ก็เหมือนกับว่าพื้นใต้เท้าของทั้งคู่นั้นได้หายไป
ทั้งสองร่วงหล่นลงไปในห้องๆหนึ่ง
.
.
ฮาจิเมะสำรวจไปรอบๆห้อง แล้วบอก นี่คือมนต์ภาพมายา

แล้วเสียงยูคิก็ดังขึ้น
ถึงจะรู้ตัวว่าตกอยู่ในมนต์ภาพมายาของท่านลอร์ดจิโนะสุเกะ
มันก็สายไปแล้วล่ะ!
เธอเดินออกมาเคียงข้างกับจิโนะสุเกะ

จิโนะสุเกะทำท่าตกใจที่เห็นฮาจิเมะ เขาถามฮาจิเมะว่ายังไม่ตายอีกหรือ?
ฮาจิเมะตอบกลับ เขาไม่ตายง่ายๆหรอก

จิโนะสุเกะมองฮาจิเมะกลับด้วยสายตาที่เย็นชา แล้วบอก งั้นฉันก็จะส่งแกไปลงนรก...
เขาหยุดพูดกลางคัน แล้วก็ยิ้มขึ้น พร้อมพูดต่อ
...ไม่สิ ที่จริง ฉันต้องขอบใจเจ้ามากกว่า ที่นำเธอมาให้ฉัน

จิโนะสุเกะมองไปที่นางเอก และบอกฮาจิเมะให้ทิ้งเธอไว้ที่นี่ซะ แล้วเขาจะไว้ชีวิต

ฮาจิเมะบอก เขาไม่คิดจะมอบนางเอกให้ใครโดยเด็ดขาด
แล้วเขาก็ตั้งท่าพร้อมเข้าต่อสู้

จิโนะสุเกะบอก อย่างที่คิดไว้ งั้นรีบมาทำให้มันจบไปซะ
เขาหยิบดาบขึ้นมา ดาบที่ยังอยู่ในห่อผ้า
เขาแกะห่อผ้านั้นออก ทันทีที่ทุกคนเห็นรูปร่างของดาบ...

นั่นมัน! ดาบปีศาจ...! นางเอกหลุดปากออกมาโดยไม่ทันคิด
เลือดของเธอพุ่งพล่านไปทั่วทันทีที่ได้เห็นดาบนั่น
มันเหมือนมีบางสิ่งที่ลึกเข้าไปในตัวเธอตื่นขึ้น
เธอไม่สามารถละสายตาไปจากดาบเล่มนั้นได้
อย่างกับว่ามันและเธอเชื่อมต่อกัน...

จินโนะสุเกะหันมามองฮาจิเมะแล้วบอก
เขาจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย... จงยอมแพ้... ทิ้งเธอไว้ที่นี่... แล้วไปซะ...

ฮาจิเมะตอบ เขาขอปฏิเสธ ยังไงเขาก็ไม่ยอมทิ้งนางเอกไปโดยเด็ดขาด
เขาสาบานแล้วว่าเขาจะปกป้องเธอ ถึงแม้ว่ามันจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม

จินโนะสุเกะบอก ...โง่จริง ทำตามข้อเสนอซะก็จบ
เขาชักดาบออกมา แล้ว....

ทันใดนั้น เสียงฟ้าผ่าก็ดังลั่น ทั้งห้องมีแต่แสงสว่างจ้าไปหมด

นางเอกมองไม่เห็นอะไร มีแต่เสียงที่ได้ยิน ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด

จนแสงดับลง ฮาจิเมะถูกจินโนะสุเกะปะทะเข้าจนลงไปคุกเข่ากับพื้น

นางเอกรีบพุ่งตรงเข้าไปหาเขา แต่เธอถูกยูคิจับไว้ก่อน

จินโนะสุเกะบอกให้ยูคิพานางเอกมาหาเขา

จินโนะสุเกะมองหน้านางเอก
แล้วบอก เธอช่างเหมือนกับยูริจริงๆ ในที่สุด... ฉันก็ได้เธอมาครอง...
เจ้าสาวของฉัน... เธอต้องเป็นของฉัน

นางเอกจ้องหน้าเขาไม่ลดละ

จินโนะสุเกะถามขึ้น ทำไม? มองแบบนั้น อยากจะพูดอะไรเหรอ?

นางเอกเอ่ยปากขึ้น เธอขอร้องให้เขาปล่อยตัวฮาจิเมะไป

จินโนะสุเกะถามกลับ ...เจ้านั่นสำคัญกับเธอมากเลยเหรอ?

นางเอกตอบ ใช่ มากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้

สายตาของจินโนะสุเกะ ปรับเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที
เขาถามนางเอก ...อย่าบอกนะว่า เธอหลงรักเจ้าภูตนั่น

นางเอกกตอบอย่างมั่นใจ ใช่! เธอรักเขา!

ฮาจิเมะตกใจ กับสิ่งที่นางเอกพูดออกมา

จินโนะสุเกะโมโหขึ้นมาในทันใด เขาบอกนางเอกว่า
ผู้ชายคนเดียวในโลกนี้ ที่คู่ควรให้เธอรักได้ คือเขาเท่านั้น!

เขาโอบเอวนางเอกเข้ามาชิดกับตัวเขา แล้วจูบเธอ

ช่างหวานเสียจริง... ริมฝีปากที่เฝ้าฝันมาแสนนาน... ริมฝีปากของยูริ...
จินโนะสุเกะบ่นรำพึง พร้อมจูบนางเอกซ้ำ

เธอพยายามจะดิ้นรนหนีจากเขา แต่เธอสู้แรงเขาไม่ได้

ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ! ฮาจิเมะตะโกน เขาพยายามจะเข้ามาช่วยนางเอก
ทั้งที่เลือดท่วมตัว แต่เขาก็ไม่สนใจ

นางเอกพยายามสลัดตัวออกจากจินโนะสุเกะ แต่เขายิ่งกอดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม

ยูคิโผล่เข้าด้านหลังฮาจิเมะแล้วทำร้ายเขา
เธอบอก เธอไม่ยอมให้ใครเข้ามาขวางทางท่านลอร์ดจินโนะสุเกะหรอกนะ

ฮาจิเมะ!! นางเอกร้องเรียกหาเขา

จินโนะสุเกะ เอามือจับคางนางเอก ดึงหน้าเธอกลับมาหาเขา
แล้วบอก ถ้าเธอร้องเรียกชื่อนั้นอีกครั้งเดียวล่ะก็...
ชื่อเดียวที่เธอจะเรียกหาได้คือชื่อเขา!

จินโนะสุเกะประกบปากนางเอกอีกครั้ง
แล้วเขาก็เอามือล้วงเข้าไปในกิโมโนเธอ
เขาละจากริมฝีปากเธอแล้วเอาลิ้นไล้ไปทั่วซอกคอเธอ

นางเอกน้ำตาเริ่มไหล ทำไม... ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ต่อหน้าฮาจิเมะด้วย...
ได้โปรด ฮาจิเมะ อย่ามองนะ...!
เธอดิ้นรนหนีออกจากตัวเขา แต่เขาก็ยิ่งโอบเธอไว้แน่นกว่าเดิม

เธอพยายามดิ้นรนอย่างสุดแรงเกิด จนเธอผลักหน้าหนีจากเขาได้

จินโนะสุเกะถาม ทำไมเธอถึงต้องปฏิเสธเขาด้วย? เธอเป็นเจ้าสาวของเขานะ...

นางเอกปฏิเสธเสียงแข็งกลับทันที ไม่! เธอไม่ยอมเป็นเจ้าสาวของเขาโดยเด็ดขาด

จินโนะสุเกะบอก เขาเกรงว่าเธอคงไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว
เราสองคนผูกพันด้วยโชคชะตาที่จะต้องเป็นสามีภรรยากัน

นางเอกสงสัยในคำพูดของเขา หมายความว่ายังไง? ที่ว่าโชคชะตาน่ะ?
คำถามหลุดออกมาจากปากเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ

จินโนะสุเกะเล่าเรื่องราวทั้งหมด ...แม่ของเธอ
ยูริ... เธอคือผู้นำคนต่อไปของเผ่าปีศาจบริสุทธิ์และก็เป็นคู่หมั้นของเขาด้วย
เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขารัก เธอแข็งแกร่ง งดงาม...สมบูรณ์แบบ...
เราสองคนถูกกำหนดให้คู่กันมาตั้งแต่เด็ก...
เราจะต้องเป็นสามีภรรยากัน และให้กำเนิดทายาทที่แข็งแกร่งสืบเผ่าพันธุ์

แล้วจู่ๆสีหน้าของจินโนะสุเกะก็บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
เขาเล่าต่อ ...แต่แล้วยูริก็ทรยศต่อเผ่า เธอทอดทิ้งปีศาจทุกตนที่ใช้ชีวิตมาร่วมกัน
เธอทอดทิ้งภาระหน้าที่... หน้าที่อันยิ่งใหญ่...
หน้าที่ในการให้กำเนิดทายาทผู้สืบทอดเผ่าปีศาจบริสุทธิ์ที่เกรียงไกรนี้!
...ผู้หญิงโง่!

แล้วจินโนะสุเกะก็หันมาหานางเอกแล้วบอก
ดังนั้น...ตอนนี้เธอต้องรับผิดชอบในสิ่งที่แม่เธอทำไว้
เธอจะต้องให้กำเนิดทายาทของเขา!

นางเอกปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่! ไม่มีทาง!
เธอมีคนที่อยู่ในใจเธอแล้ว เธอจะไม่เป็นของใครอื่น นอกจากเขา!

จินโนะสุเกะบอก หึ..น่าขำ เธอคงจะไม่ได้หมายถึงเจ้าภูตที่น่าสมเพชนั่นอ่ะนะ?
หึ หึ... ยังไงเธอก็จะต้องเป็นเจ้าสาวของเขา!
มันเป็นโชคชะตาที่เธอต้องทำตาม! มันไม่มีทางเปลี่ยนแปลง!

นางเอกตอบสวนกลับทันควัน
ถ้านั่นมันคือโชคชะตาของเธอ เธอก็ไม่ขอเชื่อในโชคชะตาอีก
เธอไม่ยอมเป็นภรรยาของเขาโดยเด็ดขาด! ไม่มีทาง! และไม่มีวันด้วย!

จินโนะสุเกะตาโตเบิกโพลงด้วยความตกใจ
เขาบอก ...ดวงตานั่น ...คำพูดแบบนั้น ช่างเหมือนกับยูริไม่มีผิด
เลือดมันข้นกว่าน้ำจริงๆ เธอก็กำลังจะเดินตามทางผิดเหมือนกับแม่ของเธอสินะ

จินโนะสุเกะมองหน้านางเอกแล้วพูดต่อ
เธอรู้มั้ย เวลาที่ผู้หญิงจากเผ่าปีศาจตั้งครรภ์เด็กของคนนอกเผ่า
เด็กดูดพลังชีวิตของแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และแม่ก็จะตายในที่สุด...
ยูริ รู้แบบนั้น แต่เธอก็ยืนยันจะคลอดนางเอกออกมา
แล้วเธอก็ตายในที่สุด เธอมันบ้า นี่มันเป็นการฆ่าตัวตายกันชัดๆ!

นางเอกสมองเบลอไปด้วย เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เธอได้ฟัง
ท่านแม่ ตาย...เพราะเธออย่างนั้นเหรอ? เธอ...เป็นคนฆ่าท่านแม่เหรอ...?

จินโนะสุเกะพูดกับนางเอกต่อ
เธอไม่เข้าใจหรอกว่าเขารู้สึกอย่างไร ที่จู่ๆเขาก็พบว่ายูริหายไปจากโลกใบนี้
เขาเฝ้าเพียรตามหาเธออยู่หลายปี ...พอได้เจอ ก็พบว่าเธอจากไปแล้ว
และคลอดลูกของมนุษย์ไว้ เธอจะไปเข้าใจความรู้สึกของเขาได้อย่างไร!?
เขาแก้แค้นเจ้านั่นที่พรากยูริไปจากเขาแล้ว
แต่มันยังไม่พอ เขาจะเอาเธอไปแล้ว ลูกสาวของยูริ
เธอต้องกลับไปที่เผ่ากับเขา เขาจะไม่ยอมให้อะไรมาขวางโดยเด็ดขาด

นางเอกคิดในใจ ...หรือว่าท่านแม่จะคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่า
สักวันหนึ่งจินโนะสุเกะจะมาพาเธอไป ท่านก็เลยขอให้พวกฮาจิเมะมาคุ้มครองเธอ?
...ท่านแม่หันหลังให้กับโชคชะตาของท่าน ท่านเลือกที่จะอยู่กับคนที่ท่านรักอย่างแท้จริง
อย่างนั้นเธอก็จะขอเดินตามรอยท่านแม่เหมือนกัน!
ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร เธอก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองได้...

นางเอกมองไปที่ฮาจิเมะ
เขานอนหมอบอยู่กับพื้นโดยพื้นเบื้องล่างเขาเต็มไปด้วยเลือด
เธอพยายามจะเข้าไปหาเขา
แต่จินโนะสุเกะดึงตัวเธอไว้ เขาดึงเธอเข้ามากอดแนบชิดกับหน้าอกเขา

จินโนะสุเกะบอก ทันทีที่เรากลับไปที่เผ่า ต้องรีบจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุด
แล้วเขาก็หันไปสั่งยูคิให้จัดการฮาจิเมะให้เรียบร้อยด้วย

สีหน้ายูคิเจ็บปวดขึ้นมาในทันที เธอก้มหน้าและไม่ยอมพูดอะไร

จินโนะสุเกะย้ำคำ ...ยูคิ? ไม่ได้ยินที่เขาสั่งเหรอ?

ยูคิตอบรับ ขอโทษค่ะ เธอจะรีบทำตามคำสั่ง...

จินโนะสุเกะเตรียมพานางเอกไป

เดี๋ยว!! ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ! ฮาจิเมะพยายามลุกขึ้นด้วยร่างที่โชกไปด้วยเลือด

จินโนะสุเกะมองเขาแล้วบอก ไม่เจียมตัวซะจริง...

ฮาจิเมะบอก เขาไม่ยอมให้จินโนะสุเกะพาตัวนางเอกไปหรอกนะ!
แล้วฮาจิเมะก็พุ่งเข้าหาจินโนะสุเกะทันที

จินโนะสุเกะโอบนางเอกอยู่จึงหลบไม่พ้น
เขาโดนฮาจิเมะโจมตีเข้า จนคลายมือออกมาจากตัวนางเอก

ฮาจิเมะรีบตะโกนบอกนางเอก รีบหนีไป! รีบไปเดี๋ยวนี้!

นางเอกพยายามจะหนี แต่จู่ๆร่างกายเธอก็ขยับไม่ได้

จินโนะสุเกะบอกนางเอก เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!
เธอเป็นเจ้าสาวของเขา เขาไม่ยอมยกเธอให้ใครเด็ดขาด!

นางเอกรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายเธอถูกตรึงไว้ด้วยด้ายที่มองไม่เห็น
เธอขยับไม่ได้เลยแม้แต่นิด

จินโนะสุเกะเดินมามองหน้านางเอกแล้วบอก
สาบานสิ ว่าเธอจะอยู่กับเขาตลอดไป แล้วเขาจะยอมคลายมนต์ให้

นางเอกปฏิเสธ เธอไม่ยอม ...มะ...ไม่มีทาง...

จินโนะสุเกะบอก หึ... ดื้อด้านจริงๆ
งั้นเธออาจจะเปลี่ยนใจ ในสิ่งที่เขากำลังจะทำก็ได้...

จินโนะสุเกะเดินไปหาฮาจิเมะแล้วบอก เขาจะฆ่าคนรักของเธอซะ ต่อหน้าเธอนี่ล่ะ!
แล้วเขาก็เหวี่ยงดาบปีศาจใส่ฮาจิเมะ

ฮาจิเมะพยายามหลบการโจมตี เขาทุบกำปั้นลงกับพื้น
แล้วพื้นดินรอบตัวจินโนะสุเกะ ก็ลอยขึ้นพุ่งเข้าโจมตีเขา

จินโนะสุเกะใช้ดาบสลัดการโจมตีทั้งหมด เขาพุ่งเข้าโจมตีฮาจิเมะต่อ

แล้วทันใดนั้น.... จินโนะสุเกะก็โดนใครบางคนโจมตีเข้า

มนต์สะกดที่ตัวนางเอกหาย เธอรีบวิ่งเข้าไปหาฮาจิเมะ

อิโนโจและทุกคน โผล่เข้ามาช่วยเหลือ

พวกเขารีบเข้าร่วมต่อสู้โดยทันที โดยบอกให้ฮาจิเมะรีบพานางเอกหนีไปซะ!

ฮาจิเมะขอบคุณทุกคนแล้ว พยายามพยุงตัว พานางเอกหนี

จินโนะสุเกะตะโกนลั่น
เธอเป็นของฉัน! เธอต้องมากับฉัน! กลับไปที่เผ่าปีศาจของเรา!

นางเอกตอบกลับ
เธอจะไม่ไปที่ไหนกับเขาทั้งนั้น! เธอไม่ใช่ของเขา! ไม่มีทางและไม่มีวัน!

จินโนะสุเกะบอก
โชคชะตากำหนดให้เราสองคนแต่งงานกัน... เขาไม่ยอม!!!

แล้วหมอกดำคลื่นพลังงานปีศาจก็คลุมร่างจินโนะสุเกะ
ภายในพริบตาเขาเปลี่ยนร่างเป็นร่างปีศาจเต็มตัว...

จินโนะสุเกะมองหน้านางเอกแล้วบอก
เธอเป็นของเขา! เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปเด็ดขาด!
แต่ถ้าเธอยังยืนยันจะปฏิเสธเขา... เขาก็จะฆ่าเธอด้วยมือเขาเอง!
พอพูดจบ เขาก็พุ่งเข้าหานางเอกทันที

นางเอกตั้งตัวไม่ทัน เธอไม่รู้จะหลบไปยังไงดี
ดาบปีศาจในมือจินโนะสุเกะพุ่งตรงมาที่คอเธอ
ด้วยความกลัว เธอจึงได้แต่หลับตาลง เตรียมรับความตายที่จะมาถึง...

แต่แล้ว...ก็มีบางอย่างผลักให้เธอนอนลงกับพื้น นางเอกตกใจลืมตาขึ้น
เธอเห็นฮาจิเมะขวางทางดาบของจินโนะสุเกะด้วยดาบของเขาอยู่

ทั้งสองเข้าต่อสู้กันอีกครั้ง

แต่ด้วยความอ่อนแรงจากอาการบาดเจ็บ
ฮาจิเมะถูกจินโนะสุเกะเตะกระเด็นไปติดกำแพง

นางเอกรีบวิ่งเข้าไปหาฮาจิเมะทันที
 เธอรีบไปอยู่ข้างๆเขา ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง?

ฮาจิเมะกุมมือเธอแล้วบอก
เขาบอกแล้วนี่ว่าเขาจะปกป้องเธอด้วยชีวิตของเขา จำได้มั้ย?

นางเอกรู้สึกเจ็บปวด เขาบาดเจ็บถึงขนาดนี้ แต่เขาก็ยังพยายามปกป้องเธออีก...
เธอถามเขา ทำไมเขาต้องทำเพื่อเธอถึงขนาดนี้ด้วย...?

ฮาจิเมะตอบ นั่นสิ... บางที... อาจจะเป็นเพราะฉันตกหลุมรักเธอแล้วก็ได้
เธอคือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา สำคัญยิ่งไปกว่าชีวิตเขาอีก
นั่นก็แปลว่าเขารักเธอเข้าแล้วใช่มั้ย?

นางเอกตื้นตันใจกับคำพูดของเขา
เธอกุมมือเขาแน่น แล้วค่อยๆโน้มตัวลงไปจูบเขา

ทันใดนั้น... ก็มีแสงสว่างจากตัวนางเอก พุ่งไปล้อมรอบตัวฮาจิเมะ

นางเอกรู้สึกอุ่นไปทั่วร่างกายเธอ...
เหมือนกับว่าพลังในตัวเธอกำลังไหลเวียนเข้าสู่ตัวฮาจิเมะ...

ร่างของฮาจิเมะค่อยๆอุ่นขึ้น แสงสว่างวิ่งไปที่รอยแผลของเขาทั่วร่าง
แล้วเลือดก็หยุดไหลทันที บาดแผลค่อยๆสมานตัวอย่างช้าๆ

ทันทีที่ฮาจิเมะฟื้นตัว แสงสว่างก็พุ่งกลับเข้าสู่ตัวนางเอก

นางเอกตกใจ นี่มันแสงอะไรกัน...? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ฮาจิเมะบอก พลังของเธอไง... พลังรักษาของเธอ...
ขอบคุณที่ให้พลังที่จะปกป้องเธออีกครั้ง เขาจะปกป้องเธอไปจนถึงที่สุด
แม้ว่าร่างนี้จะต้องแหลกสลายไปก็ตาม เขาก็จะปกป้องเธอให้จนได้
ฮาจิเมะจูบนางเอกเบาๆ แล้วหันไปเผชิญหน้ากับจินโนะสุเกะ

เขาเปลี่ยนร่างเข้าสู่ร่างปีศาจเต็มตัว
แล้วบอกจินโนะสุเกะว่า เขาไม่ยอมให้ใครพานางเอกไปหรอกนะ!

จินโนะสุเกะตอบรับ หึ... ไม่เข็ดจริงๆนะ ภูตน่าสมเพชอย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้...

 แล้วทั้งสองก็พุ่งเข้าต่อสู้กันอีกครั้ง

ฮาจิมะใช้เวทซัดใส่จินโนะสุเกะ...
จินโนะสุเกะใช้ดาบปีศาจฟาดฟันใส่ฮาจิเมะ...

การต่อสู้ที่ดุเดือดจนไม่รู้ว่าใครจะแพ้หรือชนะ

และแล้วจังหวะก็มาถึง ฮาจิเมะหยุดทางดาบของจินโนะสุเกะได้
เขาเตรียมจะซัดพลังใส่จินโนะสุเกะ ทันทีที่ฮาจิเมะปล่อยพลังนั้น...

แต่แล้ว... พลังนั้นกลับไม่ทำอันตรายใดๆกับจินโนะสุเกะ

นั่นเป็นเพราะยูคิเข้ามาขวาง เอาตัวรับพลังโจมตีนั้นแทน
เธอลงไปนอนกองกับพื้น เลือดเต็มตัว

ทุกคนต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จินโนะสุเกะเรียกชื่อยูคิขึ้นมาแบบมึนงง

ยูคิถามขึ้น ท่านลอร์ดจินโนะสุเกะ... บาดเจ็บตรงไหนมั้ยคะ...?
จินโนะสุเกะตอบ เขาปลอดภัยดี...

ยูคิยิ้มด้วยความโล่งใจแล้วบอก  ดีแล้วค่ะ... ตราบใด... ที่ท่านปลอดภัย...

จินโนะสุเกะถามกลับ ทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้ด้วย...?

ยูคิตอบ นั่นก็เพราะเธอรักเขา... แม้ว่าเขาจะไม่เคย...รักเธอเลยก็ตาม...

นางเอกรู้สึกสงสารยูคิจับใจ เธอคิดในใจ
ยูคิ... ฉันเข้าใจว่าต้องรู้สึกอย่างไร และต้องเจ็บปวดแค่ไหน
เพราะฉันก็รู้สึกแบบนี้เช่นกันกับฮาจิเมะ
ความรู้สึกที่เกาะติดแน่นอยู่ในใจ และไม่ยอมไปไหน
แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบรับเลยก็ตาม...

ยูคิกระอักเลือดออกมา เธอเจ็บปวดจากบาดแผลที่เธอได้รับ
เธอเอื้อมมือไปหาจินโนะสุเกะแล้วบอก  เธอมีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว
เธอมีคำขอสุดท้าย...ถ้าเขาพอจะทำให้เธอได้...
เธออยากให้เขากุมมือเธอไว้... และเอ่ยชื่อเธอ เป็นครั้งสุดท้าย

จินโนะสุเกะได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก

ยูคิมองหน้าจินโนะสุเกะด้วยสายที่อ้อนวอน แต่แล้วเธอเริ่มทนพิษบาดแผลไม่ไหว
มือที่เธอเอื้อมไปหาจินโนะสุเกะ ร่วงหล่นลงกับพื้นและดวงตาก็เธอปิดลง

ยูคิ!! นางเอกร้องเรียกชื่อเธอ แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดร่างที่หมดสติไปแล้ว

นางเอกพูดกับยูคิ เธอจะตายไม่ได้นะ! ฉันไม่ยอมให้เธอตาย!
ฉันเข้าใจว่าที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อจินโนะสุเกะ
ฉันเข้าใจเพราะฉันก็มีคนที่ฉันรักสุดก้นบึ้งของหัวใจเหมือนกัน
ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันก็คงจะทำแบบเดียวกันเหมือนกัน

นางเอกพูดไปน้ำตาเธอก็ไหลไป
น้ำตาของเธอร่วงหล่นลงที่แก้มของยูคิ และลงไปที่ปากยูคิ

ยูคิเริ่มได้สติ ลืมตาขึ้นมามองหน้านางเอก
นี่มัน...พลังวิเศษ...ที่่ท่านได้รับมาจากท่านหญิงยูริ...
ช่างน่าอายจริงๆ... ทำไมเธอถึงได้อิจฉาและทำร้ายคนที่ดีอย่างท่านได้?
ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าขอขอบคุณมาก..

ยูคิพยายามเอื้อมมือมาจับมือนางเอก
และก้มหัวพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสอง

นางเอกบอก ไม่ต้องหรอก อย่าเพิ่งขยับตอนนี้เลย
เธอพยายามจะรักษาแผลให้อยู่นะ

เดี๋ยว... จินโนะสุเกะขัดขึ้น

เขาบอก เขาจะจัดการเรื่องที่เหลือต่อเอง
เขาเดินตรงมาที่นางเอก และคุกเข่าข้างๆยูคิ

จินโนะสุเกะมองหน้ายูคิแล้วบอก
ยูคิ นี่คือคำสั่ง ต่อไปห้ามโยนชีวิตเจ้าทิ้งไปง่ายๆแบบนี้อีกเด็ดขาด

ยูคิตอบรับทั้งน้ำตาด้วยความซาบซึ้ง
ค่ะ... ท่านลอร์ดจินโนะสุเกะ...

จินโนะสุเกะเริ่มถ่ายพลังปีศาจให้เธอ
พลังปีศาจลอยออกจากตัวจินโนะสุเกะ เข้ารักษาบาดแผลให้ยูคิ

จินโนะสุเกะพูดขึ้น นี่คงจะปลอดภัยสำหรับในตอนนี้แล้ว
แล้วเขาก็อุ้มยูคิขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอด

จินโนะสุเกะมองหน้านางเอกแล้วบอก
สักวันหนึ่ง เขาจะตอบแทนที่เธอช่วยชีวิตยูคิไว้...
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเขาต้องการเธอ... แต่มันไม่ใช่...
เธอไม่ใช่คนที่เขาต้องการ มันเป็นแค่ภาพสะท้อนของยูริที่เขาเห็นผ่านตัวเธอ...
ถึงเธอจะเหมือนกับยูริแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ใช่ยูริ
ยูริของเขาไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว...

สายตาของจินโนะสุเกะ ที่มองตรงมาที่นางเอก
เต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจที่เสียคนรักไปอย่างไม่มีวันกลับ

จินโนะสุเกะพูดต่อ เธอคือลูกสาวของยูริ
จงมีชีวิตอยู่ต่อไป และใช้ชีวิตแทนส่วนของยูริด้วย
พอพูดจบ เขาก็หันหลังและเดินจากไป

หมอกมืดดำคลุมร่างทั้งสอง แล้วทั้งคู่หายตัวไปในพริบตา...

แล้วทันใดนั้น... มนต์ภาพมายาของสิ้นฤทธิ์ลง

ทั้งห้องเขย่าไปมา ฮาจิเมะรีบพานางเอกออกมาจากที่นั่น
.
.
ทั้งคู่โผล่กลับมาที่ปราสาทของนางเอก

ฮาจิเมะสังเกตเห็นบางอย่างที่มือนางเอก นั่นมัน...!

นางเอกก้มมองดู เธอพบว่า... ดาบปีศาจอยู่ในมือของเธอ

ริวซาบุโร่บอก จินโนะสุเกะคงจะเข้าใจแล้วว่าดาบควรเป็นของเจ้าหญิง

ริวซาบุโร่เดินออกมาพร้อมกับทุกคนที่เหลือ

นางเอกดีใจบอกขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือเธอ
จากนี้ไปเธอก็จะปกป้องดาบเล่มนี้เหมือนอย่างที่ท่านแม่เธอทำ

ฮาจิเมะถามเธอจะทำอะไรต่อไป?

นางเอกตอบ เธออยากจะซ่อมแซมปราสาทในส่วนที่เสียหายไป
แล้วในเมื่อท่านพ่อของเธอจากไป เธอก็ต้องรับหน้าที่แทนท่าน
ก็คงต้องมีอะไรให้จัดการอีกเยอะแยะเลย

ฮาจิเมะยิ้มและลูบหัวนางเอก แล้วบอกเขาจะช่วยเธอเอง

ทุกคนที่เหลือต่างก็เสนอตัวเข้าช่วยนางเอกด้วยเช่นกัน

นางเอกซาบซึ้งในน้ำใจของทุกคน
เธอบอกขอบคุณพวกเขาทุกคน ขอบคุณที่ช่วยเหลือเธอมากถึงขนาดนี้
.
.
วันต่อมา...

นางเอกหาศพท่านพ่อไม่เจอ
เธอตัดสินใจทำหลุมฝังศพขึ้นมา และฝังดาบปีศาจไว้ในสุสานท่านพ่อแทน
ท่านพ่อจะได้ปกป้องดาบปีศาจตั้งแต่นี้ไป...
.
.
ที่สวนในปราสาท... นางเอกและฮาจิเมะเดินชมสวนด้วยกัน

ฮาจิเมะพูดขึ้น เขาถามนางเอกว่าแน่ใจแล้วเหรอที่ปล่อยจินโนะสุเกะไปแบบนี้?

นางเอกตอบ ใช่ เธอไม่คิดว่าจินโนะสุเกะจะกลับมาบุกปราสาทอีกแล้วล่ะ

ฮาจิเมะบอก เธอนี่เป็นคนดีจริงๆนะ
แต่นั่นก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ เขาก็เลยชอบเธอด้วยล่ะ
ว่าแต่ว่าเธอจะไม่เสียใจภายหลังจริงๆนะ?

นางเอกบอก
ความโกรธของเธอหายไป ตั้งแต่ตอนที่เห็นจินโนะสุเกะกอดยูคิไว้แบบนั้น
เธอรู้สึกได้ถึงความรูู้สึกของจินโนะสุเกะว่ายูคิสำคัญกับเขาแค่ไหน...

ฮาจิเมะ ใช่... เขาก็เข้าใจความรู้สึกนั้นเช่นกัน...

นางเอกสงสัยในคำพูดของฮาจิเมะ เธอหันมามองหน้าเขา

ฮาจิเมะพูดต่อ เมื่อก่อนเขาไม่เคยเข้าใจว่า
การที่มีคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตมันเป็นอย่างไร...
แต่ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้ว เขามีคนที่เขารัก รักยิ่งกว่าชีวิตของเขาเองซะอีก...

ฮาจิเมะหันมามองหน้านางเอกแล้วดึงเธอเข้ามากอด

ฮาจิเมะกระซิบข้างหูนางเอก เธอคือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา...
ก่อนหน้านี้....ที่เขาผลักไสเธอไป
ก็เพราะเขาคิดว่าตัวเขาไม่สมควรจะมีสิทธิ์รักเจ้าหญิงอย่างเธอ...
แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะเป็นผู้ชายที่เหมาะกับเธอ
เขาอยากจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก...
เอ๊ะ! ไม่สิ... เขาจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขในโลกให้ได้! เขาสัญญา!

เขายิ้ม เอาหน้าผากเขาแตะกับหน้าผากนางเอก
แล้วบอกรักนางเอก ฉันรักเธอ...

นางเอกตอบกลับ เธอก็รักเขาเหมือนกัน

ทั้งสองสบตากัน แล้วริมฝีปากของทั้งคู่ก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าหากัน
ทั้งสองจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความรักที่มีต่อกัน

น้ำตานางเอกไหลออกมาด้วยความดีใจ

ฮาจิเมะถาม ร้องไห้อีกแล้วเหรอ? ขี้แยจังนะ
แล้วเขาเอามือกุมหน้านางเอก และเอานิ้วปาดน้ำตาให้เธอ

เขาบอก นี่เธอมีความสุขจนถึงขนาดต้องร้องไห้เลยเหรอ?

นางเอกเขิน เธอบอกเขาว่า...อย่าแหย่เธอสิ

ฮาจิเมะบอก เขาไม่ได้แหย่เธอ เขาแค่อยากจะรักเธอให้มากขึ้นกว่านี้อีก

ทั้งสองจูบกันอีกครั้ง แล้วฮาจิเมะก็ไซ้ไปที่ซอกคอนางเอก
เขาบอกเธอว่า มันยังไม่พอ เขาอยากจะรักเธอให้มากกว่านี้อีก ตอนนี้เลยด้วย..!

แล้วจู่ๆฮาจิเมะก็อุ้มนางเอกขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดเขา
นางเอกตกใจรีบเกาะตัวเขาแน่น

ฮาจิเมะบอก เขาคิดแล้วนะ...ว่าเธอกับเขา เราจะมีความสุขด้วยกันได้อย่างไง

นางเอกถามกลับ ...แล้วเขาคิดอย่างไงเหรอ?

ฮาจิเมะมองหน้านางเอกแล้วบอก
อืมมม... เขาคิดไม่ออกว่าเขาจะอาศัยอยู่ในปราสาทใหญ่และเก่าแก่นี้ได้ยังไง
ดังนั้นเขาก็ตัดสินใจจะพาเธอไป!

ฮาจิเมะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอแล้วกระซิบ เธอจะไปกับเขามั้ย?

นางเอกตอบรับอย่างไม่ลังเล
แน่นอน! เธอจะไปกับเขา ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม! เธอก็พร้อมจะไป!

ฮาจิเมะยิ้มดีใจในคำตอบ เขาจูบนางเอก

แล้วทั้งคู่ก็ออกไปสู่โลกใบใหม่ด้วยกัน... โลกใบใหม่ที่รอพวกเขาทั้งสองอยู่...


------------------------------------------------------------------------------------

****ตอนจบแบบสวีท****


 จะเปลี่ยนแปลงตอนที่ยูคิช่วยจินโนะสุเกะนั้น เธอจะไม่รอด

แล้วจินโนะสุเกะก็จะสำนึก ยอมจากไปโดยดี

ส่วนฮาจิเมะก็จะยอมอยู่ที่ปราสาทกับนางเอก
เขาจะเล่าความหลังให้นางเอกฟังว่าเขาเคยรักกับมนุษย์มาก่อน
แต่เพราะถูกเผ่ากีดกันความรัก ที่เป็นรักต้องห้ามระหว่างมนุษย์กับภูต
เขากับเธอคนนั้นก็เลยต้องแยกจากกัน
ดังนั้นเขาก็เลยสาบานไว้ว่าจะไม่รักใครอีก... จนมาเจอกับนางเอก



0 comments :

Post a Comment